LINE OA คืออะไร? คู่มือ LINE OA เจาะลึกฟีเจอร์เด็ด ปี 2025
LINE Marketing • 18 ต.ค. 2024, 15:40:37 • Written by: Ainee S.
อย่าลืมกดติดตาม Crescendo Lab สำหรับสาระน่ารู้ในสาย MarTech!
LINE Official Account (LINE OA) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่แทบทุกแบรนด์เลือกใช้เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตข้อมูลข่าวสาร หรือการโต้ตอบกับผู้ติดตามแบบเรียลไทม์
จากการสำรวจพฤติกรรมดิจิทัลในประเทศไทยโดย insightERA พบว่า LINE ยังคงครองตำแหน่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอันดับสองที่คนไทยใช้มากที่สุด รองจาก Facebook ด้วยอัตราการใช้งานสูงถึง 90.5%
ดังนั้น LINE OA จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม! ในบล็อกนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ LINE OA อย่างละเอียด ตั้งแต่ประเภทของบัญชี LINE เจาะลึกฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ไปจนถึงอัปเดตเครื่องมือการตลาดที่ออกแบบมาเพื่อ LINE โดยเฉพาะ มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
_____________________________________________________________________________________________
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ 🔎
- LINE Official Account (LINE OA) คืออะไร
- ประเภทบัญชี LINE OA ทั้ง 3 ประเภท
- มัดรวม 15 ฟีเจอร์ LINE OA ตัวช่วยดันยอดขายทะลุเป้า
- LINE OA มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
- 5 ประโยชน์ของ LINE OA ต่อธุรกิจ
- เทรนด์การตลาดผ่าน LINE ที่แบรนด์ห้ามพลาด
- แนะนำเครื่องมือการตลาดบน LINE ที่ช่วยให้ยอดขายโตไว
- FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ LINE OA
- บทสรุป
_____________________________________________________________________________________________
LINE Official Account (LINE OA) คืออะไร
LINE Official Account เรียกสั้น ๆ ว่า LINE OA คือ บัญชี LINE ที่ธุรกิจใช้เพื่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางแชทสนทนารายบุคคล ความพิเศษของ LINE OA ก็คือ แบรนด์สามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ในแพลตฟอร์มนี้ส่งข้อความ ข่าวสาร โปรโมชัน รวมถึงสร้างแคมเปญการตลาดต่าง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าและปิดยอดขายได้ง่ายขึ้น
ด้วยจุดเด่นที่แบรนด์สามารถพูดคุยโต้ตอบกับลูกค้าแบบ 1 ต่อ 1 (1:1) จึงทำให้หลายธุรกิจมองเห็นโอกาสในการเก็บข้อมูลลูกค้าบนไลน์เพื่อนำมาวิเคราะห์และวางแผนการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
LINE จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของชาวไทย โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งาน LINE มากกว่า 56 ล้านคนในประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ธุรกิจทุกขนาดตั้งแต่ร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก ไปจนถึงองค์กรใหญ่จะหันมาใช้ LINE OA เป็นช่องทางหลักในการเชื่อมต่อกับลูกค้า
ประเภทบัญชี LINE OA
คุณอาจเคยสังเกตสัญลักษณ์รูปโล่ที่มีดาวปรากฏตรงหน้าชื่อ LINE OA ของแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งสีโล่เหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกถึงประเภทของบัญชี LINE โดยแบ่งประเภทบัญชีออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
บัญชีทั่วไป (Unverified)
บัญชีทั่วไป คือ บัญชีโล่สีเทาที่คุณสามารถสร้างได้ฟรี และใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตน แบรนด์สามารถอัปเกรดเป็นบัญชีรับรองในภายหลังได้
เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก หรือร้านค้ารายย่อยที่ต้องการใช้เพียงฟีเจอร์เบื้องต้นของ LINE OA
ข้อดี: ไม่มีค่าใช้จ่าย จึงช่วยประหยัดต้นทุนในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ
ข้อเสีย: บัญชีไม่ได้รับการยืนยันตัวตน อาจทำให้ไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ ค้นหาแบรนด์ใน LINE OA ยาก และฟีเจอร์ใช้งานค่อนข้างจำกัด
บัญชีรับรอง (Verified)
บัญชีรับรอง คือ บัญชีโล่สีน้ำเงินที่ได้รับการรับรองจาก LINE เรียบร้อยแล้ว โดยแบรนด์จะต้องกรอกข้อมูลยืนยันตัวตนร้านค้าให้ทาง LINE พิจารณา ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 888 บาท ตลอดชีพ
เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือ และเข้าถึงฟีเจอร์ที่หลากหลายมากขึ้น
ข้อดี: สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีตัวตนจริง หาเจอง่ายกว่าทั้งบน LINE และเว็บไชต์ค้นหา รวมถึงสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายได้มากขึ้น
ข้อเสีย: ขั้นตอนการยืนยันตัวตนของธุรกิจอาจใช้เวลา และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในอนาคตในกรณีที่ธุรกิจเติบโต
บัญชีพรีเมียม (Premium)
บัญชีพรีเมียม คือ บัญชีโล่สีเขียวที่มีการตกลงระหว่าง LINE กับธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการสมัครที่เข้มงวด
เหมาะกับแบรนด์ใหญ่ หรือองค์กรที่ต้องการทำการตลาดให้กับผู้ใช้งานจำนวนมาก
ข้อดี: มีความน่าเชื่อถือสูงสุด และมีโอกาสปรากฏเป็นอันดับแรก ๆ ในผลการค้นหาของ LINE พร้อมทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ครบครันที่สุด และสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของ LINE ได้มากที่สุด เช่น การเข้าถึงข้อมูลสถิติขั้นสูง, การใช้ LINE Ads Platform อย่างเต็มรูปแบบ, และการเข้าถึง API ต่าง ๆ ที่ LINE ให้บริการ
ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าบัญชีประเภทอื่น และต้องผ่านกระบวนการสมัครที่ใช้เวลา และซับซ้อนเพราะต้องใช้เอกสารยืนยันทางธุรกิจหลายอย่าง
มัดรวม 15 ฟีเจอร์ LINE OA ตัวช่วยดันยอดขายทะลุเป้า!
LINE OA มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายให้ธุรกิจ เราได้คัดสรรมา 15 ฟีเจอร์เด็ดที่คุณไม่ควรพลาด
ฟีเจอร์เด็ดจาก LINE OA อัปเดตปี 2024!
1. บรอดแคสต์ (Broadcast)
บรอดแคสต์เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยส่งข้อความแจ้งข้อมูลโปรโมชัน หรือข้อเสนอพิเศษถึงเพื่อนผู้ติดตามทุกคนใน LINE OA โดยแบรนด์สามารถเลือกได้ว่าจะส่งให้ผู้ใช้งานทั้งหมดหรือเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่คุณตั้งค่าไว้
ประโยชน์: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อความถึงผู้ใช้จำนวนมากในครั้งเดียว และเพิ่มอัตราการเปิดอ่านข้อความเพราะลูกค้าจะได้รับข้อความที่ตรงความสนใจ
2. สเต็ปเมสเสจ (Step message)
ภาพจาก LINE OA Manager
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าการส่งข้อความให้เพื่อนใน LINE อัตโนมัติตามเงื่อนไขที่คุณกำหนดได้เอง ทั้งคอนเท้นท์ ช่วงเวลาในการส่ง และระยะเวลาก่อนส่ง เช่น ส่งคูปองหาเพื่อนใหม่ที่มาจากโฆษณาเพิ่มเพื่อน เมื่อเป็นเพื่อนครบ 3 วัน
ประโยชน์: ช่วยสร้างการสื่อสารที่เป็นระบบและต่อเนื่องกับลูกค้า ผ่านการส่งข้อความตามเวลาที่กำหนด และช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขายซ้ำ
3. ข้อความทักทายเพื่อนใหม่ (Greeting Message)
ภาพจาก LINE for Business
ส่งข้อความทักทายเพื่อนใหม่ใน LINE แบบอัตโนมัติทันทีที่มีลูกค้าเพิ่มเพื่อนเข้ามา คุณสามารถปรับข้อความ เช่น ใส่ลูกค้า หรือโปรโมชันได้ตามใจชอบ
ประโยชน์: ช่วยสร้างความประทับใจแรกที่ดีให้กับลูกค้าทันทีที่เพิ่มเพื่อนใน LINE OA ของแบรนด์
4. ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ (Auto-reply)
ภาพจาก LINE for Business
ฟีเจอร์ที่มีระบบตอบกลับข้อความลูกค้าอัตโนมัติ ใช้ในช่วงนอกเวลาทำการ หรือช่วงที่แอดมินยุ่งจนไม่มีเวลาพิมพ์ตอบลูกค้าแบบ 1:1 ได้ ระบบจะตอบกลับอัตโนมัติเมื่อมีลูกค้าส่งข้อความเข้ามาโดยใช้ข้อความที่กำหนดไว้
ประโยชน์: ช่วยตอบคำถามลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ และสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้แก่ลูกค้า
5. ข้อความตอบกลับในแชท (Standard Replies)
ภาพจาก LINE for Business
คุณสามารถกำหนดข้อความตอบกลับลูกค้าที่ต้องใช้บ่อยไว้ล่วงหน้าได้โดยกำหนดชื่อของข้อความ และเนื้อหาข้อความได้เอง เมื่อต้องตอบกลับลูกค้าคุณเพียงพิมพ์แค่คีย์เวิร์ดที่ตั้งค่าไว้ ระบบก็จะส่งเป็นข้อความฉบับเต็มให้ได้ทันที
ประโยชน์: เพิ่มความสะดวกให้แบรนด์ตอบกลับแชทลูกค้าได้เร็วขึ้น ทำให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ต้องการทันที
6. ริชเมสเสจ (Rich Messages)
ภาพจาก LINE OA Manager
ริชเมสเสจเป็นฟีเจอร์ที่คุณสามารถส่งรูปขนาดใหญ่เต็มจอพร้อมกับปุ่มฝังลิงก์ เมื่อผู้ใช้แตะที่รูปก็จะถูกพาไปยังเว็บไซต์ตามที่ตั้งค่าเอาไว้ได้ง่ายขึ้น
ประโยชน์: ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับข้อความที่แบรนด์คุณต้องการสื่อสารกับลูกค้า เพราะริชเมสเสจจะทำให้ข้อความโดดเด่น สะดุดตา และดึงดูดความสนใจได้มากกว่ารูปทั่วไป ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายได้ง่ายขึ้น
7. ริชวิดิโอเมสเสจ (Rich Video Messages)
ภาพจาก LINE OA Manager
Rich Video Messages คือข้อความที่เป็นคลิปวิดีโอซึ่งจะเล่นเองอัตโนมัติ (Auto-play) เมื่อลูกค้าเปิดอ่านข้อความ คุณสามารถสร้างปุ่มแอ็กชันพร้อมใส่ลิงก์ให้แสดงบนหน้าจอได้ เพื่อให้ลูกค้าคลิกตามไปยังหน้าเว็บไซต์ที่คุณต้องการ
ประโยชน์: ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้าที่ไม่สามารถถ่ายทอดผ่านข้อความหรือรูปภาพได้ ช่วยให้แบรนด์คุณนำเสนอสินค้าได้ครบถ้วนมากขึ้น ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
8. การ์ดเมสเสจ (Card-based Messages)
ภาพจาก LINE OA Manager
สำหรับการ์ดเมสเสจ ให้คุณนึกภาพข้อความแบบการ์ดที่สามารถปัดไปดูการ์ดใบอื่นๆ ได้ ความพิเศษคือคุณสามารถส่งคอนเทนต์ในการ์ดได้ถึง 9 ใบในข้อความเดียว ฟีเจอร์นี้จึงตอบโจทย์แบรนด์ที่มีสินค้าหรือบริการหลายตัวเลือกอย่าง เมนูอาหาร คอร์สเรียนภาษา ฯลฯ
ประโยชน์: ลูกค้าสามารถเลื่อนดูสินค้าได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสให้แบรนด์แนะนำสินค้าได้หลากหลายในครั้งเดียว
9. คูปอง (Coupon)
ภาพจาก LINE OA Manager
คูปองเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะคุณสามารถสร้างคูปองดิจิทัลเพื่อแจกคูปองส่วนลดหรือโปรโมชันพิเศษให้กับลูกค้าผ่าน LINE OA ได้อย่างง่ายดาย ลูกค้าเพียงแค่แสดงหน้าจอคูปองก็สามาถใช้คูปองได้ทันที
ประโยชน์: เป็นเครื่องมือช่วยกระตุ้นการเพิ่มเพื่อนใน LINE OA ได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อสินค้าหรือใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอีดด้วย อ่านวิธีสร้าง LINE Coupon ได้ง่าย ๆ ในบล็อกนี้ (อ่านเพิ่มเติม)
10. บัตรสะสมแต้ม (Reward Cards)
ภาพจาก LINE OA Manager
คุณสามารถออกบัตรสะสมแต้มเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำได้ ลูกค้าจะได้รับแต้มสะสมทุกครั้งที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่ร้านโดยไม่จำเป็นต้องพกบัตรแบบกระดาษให้ยุ่งยาก
ประโยชน์: ช่วยเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้เป็นขาประจำ กระตุ้นการซื้อซํ้าและทำให้ลูกค้ารักและสร้างความผูกพันธ์กับแบรนด์คุณ
11. ริชเมนู (Rich Menu)
ภาพจาก LINE for Business
ริชเมนู คือเมนูที่แสดงตรงแถบด้านล่างของห้องแชทใน LINE OA ของแบรนด์ คุณสามารถออกแบบได้ว่าต้องการให้แสดงข้อมูลอะไรบนริชเมนูซึ่งตั้งค่าได้ถึง 6 เมนู แบรนด์ส่วนมากจะเลือกให้แสดงข้อมูลที่มักถูกถามบ่อย เช่น แผนที่ร้านค้า, เว็บไซต์บริษัท, คูปอง ฯลฯ
ประโยชน์: ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ เช่น โปรโมชัน สินค้าใหม่ หรือบริการ ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่คลิกที่หน้าแชท ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้แบรนด์ประหยัดเวลาในการตอบคำถามซ้ำ ๆ
12. แชทแบบ 1 ต่อ 1 (1 on 1 Chat)
ภาพจาก LINE for Business
แน่นอนว่าจุดเด่นของ LINE OA ก็คือแชทสนทนากับลูกค้าแบบรายบุคคล การโต้ตอบลูกค้าแบบ 1:1 จึงช่วยสร้างความรู้สึกน่าประทับใจให้ลูกค้าเพราะได้รับบริการแบบส่วนตัวจากแบรนด์ ดังนั้นลูกค้าจะได้รับการตอบกลับและความช่วยเหลือในปัญหาต่าง ๆ อย่างตรงประเด็น
ประโยชน์: ช่วยให้แบรนด์สามารถติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งาน LINE ของลูกค้าแต่ละรายได้ง่ายขึ้น แชท 1:1 จึงเป็นการสร้างข้อได้เปรียบให้กับแบรนด์เพื่อทำความเข้าใจความต้องการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและนำไปพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้ยอดขายเติบโตในอนาคต
13. แท็ก (Chat Tag)
ภาพจาก LINE OA Manager
แท็กเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ยอดนิยมที่แบรนด์ใช้เพื่อจัดระเบียบเพื่อนบน LINE OA คุณสามารถติดแชทแท็กได้ตามชื่อแท็กที่กำหนดขึ้นเอง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าตามประเภท หรือความสนใจต่าง ๆ ทำให้ดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์: ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดกลุ่มลูกค้าตามความสนใจหรือพฤติกรรมการซื้อ เพื่อต่อยอดกลยุทธ์การตลาดแบบเฉพาะบุคคล
14. แบบสอบถาม (Survey)
ภาพจาก LINE OA Manager
LINE OA ให้แบรนด์คุณสามารถสร้างแบบสอบถามสำรวจความสนใจของลูกค้าได้ง่าย ๆ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยร้านค้าเก็บข้อมูลความคิดเห็น และสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าโดยเฉพาะ
ประโยชน์: ช่วยให้แบรนด์สร้างฐานข้อมูลลูกค้าที่แข็งแกร่ง เข้าใจความต้องการอย่างตรงจุด ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามจะช่วยให้คุณวางแผนการตลาดได้ตรงความต้องการลูกค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเปิดอ่านข้อความ และลดอัตราการบล็อก LINE OA ได้อีกด้วย
15. โทรผ่าน OFFICIAL ACCOUNT (OA CALL)
ภาพจาก LINE for Business
หลายท่านอาจยังไม่รู้ว่า LINE Official Account มีฟีเจอร์ให้ลูกค้าสามารถโทรหาแบรนด์ผ่าน LINE OA ได้โดยตรง ฟีเจอร์ OA Call นี้จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับสินค้า หรือติดต่อเรื่องด่วนได้ทันใจ
ประโยชน์: เพิ่มช่องทางการติดต่อร้านค้าได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้แบรนด์แก้ปัญหาด่วนหรือตอบข้อสงสัยของลูกค้าได้ทันที
LINE OA มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ค่าใช้จ่าย LINE Official Account แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักด้วยกัน ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายดังนี้
รอบชำระ | ค่าธรรมเนียม | |
---|---|---|
บัญชีรับรอง | ครั้งเดียว | 888 บาท |
บรอดแคสต์ | รายเดือน | ตามแพ็กเกจที่เลือกใช้ |
ไอดีพรีเมียม | รายปี | 444 บาท |
1. อัปเกรดบัญชีรับรอง (Verified Account)
แน่นอนว่าบัญชี LINE OA ที่ได้รับการรับรอง (โล่น้ำเงิน) จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าและเกิดความไว้วางใจว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนจริง ค่าใช้จ่ายในการยื่นขอบัญชีรับรองกับทาง LINE อยู่ที่ 888 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ใช้ได้ตลอดอายุการใช้งาน
2. อัปเกรดไอดีพรีเมียม (Premium ID)
ครั้งแรกที่คุณสมัครบัญชีทางการไลน์จะได้รับไอดีเป็นเพียง Basic ID หรือชื่อบัญชีเป็นอักษรสุ่มผสมกับตัวเลข เช่น “@lyd335” ซึ่งแบรนด์สามารถเปลี่ยนชื่อให้ลูกค้าจดจำง่ายข้นด้วยการซื้อ Premium ID ให้เป็นชื่อแบรนด์ เช่น “@crescendolab”
ค่าใช้จ่าย Premium ID อยู่ที่ 444 บาทต่อปี เมื่อสมัครผ่านแอนดรอยด์ หรือเว็บไซต์ และมีค่าใช้จ่าย 459 บาทเมื่อสมัครผ่าน iOS
3. บรอดแคสต์
ค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งที่แบรนด์ต้องเตรียมไว้ก็คือ ค่าบรอดแคสต์ โดยจะมีการเรียกเก็บแบบรายเดือน ตามจำนวนข้อความบรอดแคสต์ที่แบรนด์ต้องการส่งให้เพื่อนผู้ติดตาม ค่าบรอดแคสต์ผ่าน LINE OA ล่าสุดได้มีการปรับแพ็กเกจรายเดือน (เริ่ม 1 ส.ค. 2567) ดังนี้
แพ็กเกจฟรี (Free) ได้มีการปรับจำนวนข้อความบรอดแคสต์เป็น 300 ข้อความ / เดือน จากเดิม 500 ข้อความ / เดือน และแพ็กเกจ Pro ได้ปรับราคาเป็น 1,780 บาท / เดือน จาก 1,500 บาท / เดือน นอกจากนี้ราคาต่อข้อความที่เกินจากแพ็กเกจได้ปรับเป็น 0.06 บาท / ข้อความ จากเดิม 0.04 บาท / ข้อความ
ข้อมูลจาก: LINE for Business
5 ประโยชน์ของ LINE OA ต่อธุรกิจ
1. เข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมาก
อย่างที่เกริ่นในพาร์ทแรกของบล็อกนี้ว่า LINE เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมอันดับที่ 2 ในประเทศไทย โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 56 ล้านคน และยังเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วเอเชีย
การใช้ LINE OA จึงเป็นโอกาสทองสำหรับธุรกิจในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมหาศาล ช่วยให้แบรนด์สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดและขยายฐานลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
2. วางแผนกลยุทธ์การตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing)
ด้วยฟีเจอร์การแชทแบบ 1 ต่อ 1 กับลูกค้า หลายธุรกิจจึงมองเห็นโอกาสในการนำกลยุทธ์การตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพผ่านฟีเจอร์แชทแท็ก หรือ ฟีเจอร์ Auto-Tag ในเครื่องมือการตลาด MAAC จาก Crescendo Lab
ยิ่งแบรนด์คุณเข้าใจพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดและนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำและตรงจุดมากยิ่งขึ้น
3. สร้างฐานข้อมูลลูกค้าที่แข็งแกร่ง
ในยุคที่ข้อมูลลูกค้าเป็นทรัพยากรอันล้ำค่า LINE OA กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้โดยตรง ทำให้ธุรกิจได้ครอบครอง First-Party Data และสร้างฐานข้อมูลลูกค้าที่แข็งแกร่ง
การมีข้อมูลลูกค้าที่ครบถ้วนจากการสร้างโปรไฟล์ลูกค้า (Customer Profile) ช่วยให้แบรนด์คุณสามารถต่อยอดกลยุทธ์การตลาด การขาย และการบริการลูกค้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์ลูกค้า (Customer Journey) ได้อย่างราบรื่นทุกจุดสัมผัส
4. มีเครื่องมือการตลาดหลากหลาย
LINE OA ได้พัฒนากว่า 20 ฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณปิดยอดขายได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คูปอง, บัตรสะสมแต้ม, หรือสเต็ปเมสเสจ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือการตลาด Third-Party มากมายที่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะในการทำการตลาดแบบอัตโนมัติกับกลุ่มผู้ติดตามของแบรนด์คุณ
หนึ่งในเครื่องมือที่น่าสนใจคือ MAAC จาก Crescendo Lab ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์หลากหลายประกอบกับการผสานเทคโนโลยี AI สุดล้ำที่จะช่วยยกระดับกลยุทธ์การตลาดของคุณให้มีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น
5. สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นมืออาชีพ
บัญชีที่ผ่านการยืนยันตัวตน (Verified Account) หรือบัญชีพรีเมียม (Premium Account) ไม่เพียงแค่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ แต่ยังยกระดับภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อีกด้วย
นั่นเป็นเพราะว่าบัญชี LINE OA เหล่านี้ได้ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นทางการทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้
เจาะเทรนด์การตลาดผ่าน LINE ที่แบรนด์ห้ามพลาด
ปัจจุบันมีเทรนด์การตลาดใหม่ ๆ มากมายที่ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญบนแพลตฟอร์ม LINE OA แล้วคุณล่ะ รู้จักเทรนด์ไหนบ้าง? มาสำรวจไปพร้อม ๆ กันค่ะ
LINE Digital Transformation
Digital Transformation คือการนำเทคโนโลยีมาปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานและรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้ตามทันยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
แอปพลิเคชัน LINE นับว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนวงการ Chat Commerce อย่างรวดเร็ว เห็นได้จากการที่แบรนด์และองค์กรต่าง ๆ เลือกใช้ LINE เป็นช่องทางหลักในการขายสินค้าและให้บริการลูกค้า จนเกิด LINE Ecosystem ที่มีฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ที่ช่วยสร้างยอดขายมหาศาลให้กับธุรกิจมากมาย
LINE D2C
D2C (Direct-to-Consumer) คือโมเดลธุรกิจที่แบรนด์ขายสินค้าตรงถึงลูกค้าโดยไม่ผ่านตัวกลาง ซึ่งแตกต่างจาก B2C หรือ B2B แบบดั้งเดิม ตัวอย่างช่องทาง D2C ได้แก่ เว็บไซต์ของแบรนด์, บัญชีทางการ LINE, หรือสาขาหน้าร้าน
จุดเด่นของกลยุทธ์ O2O คือ แบรนด์สามารถทำการตลาดและโปรโมตสินค้าหรือบริการต่างๆ ได้โดยตรงด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแข็งแกร่งกับลูกค้ามากขึ้น
LINE O2O
O2O (Online-to-Offline) คือกลยุทธ์การตลาดที่ผสานพลังของออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ไปยังหน้าร้าน ดังนั้น LINE O2O ก็คือการใช้ LINE OA ในการสื่อสารและแนะนำลูกค้าให้มายังหน้าร้าน
ตัวอย่างเช่น ในช่วงคริสต์มาส Adidas ไต้หวันได้ใช้เกมปลั๊กอินบน LINE จาก Crescendo Lab เพื่อดึงดูดผู้ติดตามให้ร่วมสนุกกับเกมโหลหมุนไข่จับฉลาก และแนะนำให้ไปยังร้านค้าใกล้เคียง กิจกรรมนี้ดึงดูดเพื่อนใหม่กว่า 50,000 คนในเวลาเพียง 11 วัน!
LINE CRM
CRM (Customer Relationship Management) คือ การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้องค์กรสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น ด้วยความที่ LINE OA เอื้อให้แบรนด์เข้าถึงข้อมูลลูกค้าและใช้งานง่ายกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ทำให้หลายแบรนด์หันมาใช้ LINE เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้า
LINE AI
ยุคนี้หากไม่พูดถึง AI ก็คงจะตกเทรนด์ AI เป็นเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2565 เห็นได้จากการนำ AI มาผสานบนแอปพลิเคชันต่าง ๆ สำหรับ LINE OA ก็มีการใช้ AI เพิ่มศักยภาพการทำการตลาดให้แบรนด์ถึง 4 วิธี ดังนี้
- การสร้างคอนเทนต์จาก AI : ด้วยเทคโนโลยีประมวลผลภาษามนุษย์ (NLP)
- การส่งข้อความอัจฉริยะ (Smart sending)
- ฟีเจอร์ AI ค้นหากลุ่มลูกค้าที่ใช่ (Smart Segmentation)
- ฟีเจอร์ AI แนะนำสินค้าที่ใช่ (Smart Recommendation)
ไม่อยากตกเทรนด์ AI Marketing? (อ่านบล็อกเพิ่มเติม)
LINE Automated Customer Journey
Customer Journey คือ เส้นทางที่ลูกค้าเดินทางระหว่างการซื้อสินค้า โดยจะต้องผ่านจุดสัมผัสต่าง ๆ ตั้งแต่การติดต่อแบรนด์จนถึงการใช้บริการหลังการขาย
เพื่อมอบ Customer Journey ที่น่าประทับใจในทุกจุดสัมผัส แบรนด์ควรสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ การสร้าง Customer Journey แบบอัตโนมัติด้วย MAAC จึงตอบโจทย์ เพราะเป็นเครื่องการตลาดแบบครบวงจรที่มีหลายฟีเจอร์ อย่าง Auto-Tag ที่ช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าโดยอัตโนมัติตามพฤติกรรมการคลิกบน LINE
LINE Re-marketing
Re-marketing เป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาที่แบรนด์ E-commerce มักเจอ นั่นก็คือเมื่อลูกค้าเพิ่มสินค้าลงในตะกร้าแต่ยังลังเลที่จะซื้อ เครื่องมือการตลาด MAAC จาก Crescendo Lab จึงพัฒนาฟีเจอร์การตลาด Re-marketing ด้วยการส่งคูปองส่วนลดให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ในเวลาที่ใช่ เพื่อกระตุ้นการซื้อและสร้างผลลัพธ์รีมาร์เกตติ้งอย่างตรงจุด
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Re-marketing ผ่าน LINE (คลิกเลย)
แนะนำเครื่องมือการตลาดบน LINE ที่ช่วยให้ยอดขายโตไว
นอกจากฟีเจอร์เด็ดของ LINE OA ที่มีให้เลือกใช้มากมาย ยังมีเครื่องมือการตลาดอีกเพียบที่จะช่วยดันให้ยอดขายของแบรนด์คุณให้โตไวขึ้น
LINE API
Application Programming Interface (API) คือ เครื่องมือที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างระบบต่างๆ LINE API จึงเปรียบเสมือนตัวเชื่อมระหว่าง LINE กับแอปพลิเคชันอื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานในกรณีที่ฟังก์ชันพื้นฐานของ LINE ไม่เพียงพอ แบรนด์สามารถใช้ LINE API เพื่อเชื่อมต่อ LINE OA กับซอฟต์แวร์การตลาดเสริมได้อย่างราบรื่น
LINE Messaging API
LINE Messaging API เป็น API ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก LINE ทำหน้าที่เชื่อมต่อ server เข้ากับ LINE Official Account ช่วยให้แบรนด์พัฒนา chatbot และบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น สามารถโต้ตอบกับผู้ติดตามและส่งข้อความอย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ทำให้การสื่อสารกับลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและตอบสนองได้ทันที
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE Developers
LINE Social Plugin
LINE Social Plugin คือ เครื่องมือที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเชื่อมต่อกับ LINE ได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์หรือมีปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น เช่น การสร้างปุ่มแชร์, ปุ่มเพิ่มเพื่อน, และปุ่มถูกใจ ซึ่งช่วยเชื่อมผู้ใช้จากเว็บไซต์ตรงเข้าสู่ LINE OA ของแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว
LINE x MAAC เครื่องมือการตลาดแบบครบวงจร
Messaging Analytics & Automation Cloud (MAAC) เป็นแพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติที่ให้บริการผ่าน LINE Official Account โดยเฉพาะ จุดเด่นของ MAAC คือการตอบโจทย์ทุกความต้องการด้าน CRM ตั้งแต่การหาลูกค้าใหม่ สร้างความผูกพัน เพิ่มยอดขาย ไปจนถึงเก็บข้อมูลลูกค้า 360°
ตัวอย่างฟีเจอร์เด็ดบน MAAC เช่น Smart Sending, การติดแท็กอัตโนมัติ, เกมมิฟิเคชั่น, การแจกคูปองส่วนลดและของรางวัล ฯลฯ สรุปข้อดีได้ง่ายๆ ว่า MAAC จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระบบหลังบ้านของ LINE OA ได้อย่างเหนือระดับเมื่อเทียบกับการใช้เพียงฟีเจอร์พื้นฐานที่มีบน LINE
LINE x CAAC ระบบรวมและโต้ตอบแชทสนทนา
CAAC ย่อมากจาก Conversation Analytics and Automation Cloud คือ แพลตฟอร์มรวมแชทและโต้ตอบการสนทนาของ LINE OA ที่พัฒนาสำหรับแบรนด์ที่มีทีมขนาดใหญ่ที่ระบบการทำงานที่ซับซ้อน
พูดให้เห็นภาพ CAAC เป็นตัวกลางที่รวมแชทลูกค้าจาก LINE, Facebook, และ Instagram เข้าด้วยกัน ช่วยให้แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าอย่างราบรื่นในแพลตฟอร์มเดียว ที่สำคัญคือลดปัญหาเรื่องการสื่อสารผิดพลาดระหว่างทีม ทำให้แบรนด์ดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และสร้างประสบการณ์การให้บริการลูกค้าอย่างเหนือระดับ
LINE x SMS
SMS+ เป็นบริการที่ผสาน LINE OA และ SMS เข้าด้วยกัน เพื่อให้แบรนด์สามารถส่งข้อความแบบอัตโนมัติตรงถึงลูกค้าผ่าน SMS โดยมีเพียงแค่เบอร์โทรศัพท์ของลูกค้า บริการนี้ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติที่จะกำหนดช่องทางที่ประหยัดที่สุดในการส่งข้อความถึงลูกค้า
ในขณะเดียวกันแบรนด์ก็สามารถเลือกได้อย่างอิสระระหว่างการส่งข้อความทาง LINE Push, LINE LON, หรือ SMS การผสานการทำงานข้ามแพลตฟอร์มนี้ จึงทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และได้ผลลัพธ์ทางการตลาดที่แม่นยำ
ผสานทุกระบบบน LINE OA
โซลูชันการตลาดผ่าน LINE อย่าง MAAC, CAAC, และ SMS+ ที่ได้แนะนำไป เหมาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยมีค่าใช้จ่ายแบบรายเดือน (Subscription) ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาทต่อเดือน แต่หากเทียบกับรายได้ที่แบรนด์จะได้รับหรือการลดต้นทุนที่ช่วยประหยัดไป ผลลัพธ์ที่ได้อาจคุ้มค่ากว่านั้นหลายเท่า
นอกจาก LINE OA องค์กรเหล่านี้ยังสามารถใช้ระบบ CRM, CDP, และเครื่องมือจัดการข้อมูลลูกค้าอื่น ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการตลาด กลยุทธ์ที่ดีจึงไม่ได้อาศัยแค่เครื่องมือเดียว แต่ต้องผสานกับระบบต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลไหลลื่นข้ามทุกช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพ
LINE Business Manager
สำหรับแบรนด์ที่มี LINE OA หลายบัญชี หรือมีข้อมูลกระจัดกระจายในหลายแพลตฟอร์ม LINE Business Manager จะเป็นผู้ช่วยที่ดีเยี่ยมในการจัดการข้อมูลภายใน LINE Ecosystem ทำให้แบรนด์สามารถรวบรวมข้อมูลข้ามบัญชี LINE ของแบรนด์ได้ และยังสามารถรวมแพลตฟอร์มโฆษณา LINE Ads และข้อมูลของผู้ลงโฆษณารายอื่น ๆ ได้อีกด้วย
LINE Developers
LINE Developers คือ แหล่งข้อมูลสำหรับบริษัทและนักพัฒนาที่ต้องการสร้างโปรแกรมต่างๆ เชื่อมกับแพลตฟอร์ม LINE แบรนด์สามารถอ่านคู่มือแนะนำเพื่อพัฒนาฟังก์ชันเพิ่มเติมบน LINE และหาวิธีแก้ไขปัญหาทางเทคนิคได้
LINE Bot
LINE Bot คือ LINE Official Account ที่ใช้ Messaging API เพื่อให้ร้านค้าสามารถตอบสนองและโต้ตอบกับลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระให้แอดมินไม่ต้องคอยตอบคำถามซ้ำๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า แบรนด์ยังสามารถสร้าง LINE Bot ได้เอง โดยให้ Developer ตั้งค่าหรือกำหนดการทำงานในระบบหลังบ้าน
LINE SHOPPING
แพลตฟอร์ม E-commerce ที่เชื่อมต่อกับ LINE โดยตรง เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการเพิ่มช่องทางการขายสินค้า และยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายในการขายของออนไลน์ เพราะลูกค้าไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติม แบรนด์สามารถสมัครได้ง่ายๆ ฟรี เพียงมีบัญชีทางการ LINE
LINE Ads
เดิมชื่อว่า LINE Ads Platform หรือ LAP คือฟีเจอร์สำหรับยิงโฆษณาในไลน์ เหมือนกับการยิงแอดโฆษณาผ่านช่องทาง Social Media อื่นๆ เช่น Facebook, TikTok, Instagram เป็นต้น ระบบจะเลือกตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการแสดงโฆษณาของคุณตามการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่เลือกไว้โดยอัตโนมัติ ได้แก่ Home Tab, Chat List (หน้าแชท), LINE VOOM, LINE TODAY, Wallet Tab, และ LINE Openchat
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ LINE OA
Frequently Asked Questions
FAQ
ข้อความทั่วไป vs บรอดแคสต์ ต่างกันอย่างไร?
ฟังก์ชันหลักของ LINE OA คือการส่งข้อความแบบ 1:1 เพื่อโต้ตอบกับลูกค้าแบบรายบุคคล ซึ่งแอดมินมักเป็นผู้ตอบแชทด้วยตัวเอง ทำให้ไม่มีค่าธรรมเนียมในการส่งข้อความทั่วไป
แต่สำหรับฟีเจอร์ "บรอดแคสต์" แบรนด์สามารถส่งข้อความถึงผู้ติดตามหลายคนพร้อมกัน หรือตั้งค่าข้อความตอบกลับอัตโนมัติ (Auto-Reply) ได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะมีค่าบริการรายเดือนที่แบรนด์ต้องจ่ายตามจำนวนบรอดแคสต์ที่ส่งในแต่เดือน
แบรนด์ยกเลิกข้อความบน LINE OA ได้หรือไม่?
แบรนด์ไม่สามารถยกเลิกข้อความที่ถูกส่งบน LINE OA ได้ เนื่องจาก LINE OA เป็นช่องทางการสื่อสารที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ จึงต้องเก็บบันทึกแชทสนทนาทั้งหมด เพื่อเลี่ยงข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการและลูกค้าได้
จัดการ LINE OA เอง vs ให้เอเจนซี่ดูแล เลือกแบบไหนดี?
แบรนด์ขนาดเล็กที่มีงบจำกัดอาจยังไม่จำเป็นต้องจ้างเอเจนซี่เข้ามาช่วยดูแลบัญชีทางการไลน์ อย่างไรก็ตามหากถึงจุดที่ธุรกิจเริ่มขยายตัว การใช้บริการ LINE Agency Partner เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจาก LINE ที่จะเข้ามาช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ให้เหมาะกับแต่ละแบรนด์
LINE OA มีอัตราบล็อกสูง แก้ยังไงดี?
ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยฟังก์ชัน Automatic Customer Journey ผ่าน MAAC เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติจาก Crescendo Lab ที่มีระบบเก็บข้อมูลลูกค้ารอบด้านจาก LINE OA และนำข้อมูลเหล่านั้นมาต่อยอดในการสร้าง persona และการแบ่งกลุ่มลูกค้าด้วย Customer 360 ทำให้แบรนด์สามารถแนะนำสินค้าที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย
การนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมจึงทำให้ลูกค้าอยากติดตาม LINE OA ของแบรนด์ต่อไป และลดอัตราการบล็อกได้อย่างเห็นผล
บทสรุป
เชื่อว่าใครที่อ่านมาถึงตรงนี้จะได้รับข้อมูลอัดแน่นเกี่ยวกับ LINE Official Account ตั้งแต่รู้ว่าแพลตฟอร์มนี้คืออะไร มีกี่ประเภท รวมถึงฟีเจอร์เด็ดของ LINE OA ที่แบรนด์ไม่ควรพลาด
มองเผิน ๆ LINE อาจเหมือนเพียงแอปพลิเคชันแชททั่วไป แต่หากแบรนด์คุณรู้วิธีใช้ LINE OA อย่างรอบด้าน พร้อมกับมองหาเครื่องมือการตลาดเสริมอย่าง MAAC และ CAAC จาก Crescendo Lab ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพของการวางแผนการตลาดให้ตรงใจลูกค้า นำมาซึ่งยอดขายที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ LINE OA คลิกเลย!
อ้างอิงข้อมูลจาก
- LINE for Business
- LINE Official Account Manager