3. วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ทำการตลาดได้ง่าย
ข้อมูลลูกค้าเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ล้ำค่าขององค์กร ดังนั้นระบบ CRM จะช่วยให้แบรนด์คุณเก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่เก็บได้นั้นก็จะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้วางแผนการตลาดได้แม่นยำกว่าเดิม ปัจจุบันได้หมดยุคของการทำการตลาดแบบหว่านแห หลายแบรดน์จึงเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อทำการตลาดแบบรายบุคคล (Personlized Marketing) เราจึงแนะนำให้คุณใช้ระบบ CRM ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Marketing Automation หรือการตลาดแบบอัตโนมัติ เพื่อผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำและง่ายกว่าทำการตลาดแบบดั้งเดิม
เรามีเคสตัวอย่างของแบรนด์ดังระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง NISSAN ที่ใช้ CRM เก็บข้อมูลลูกค้าบน LINE OA และทำการตลาดอัตโนมัติได้อย่างเห็นผล นั่นคือแบรนด์สามารถเพิ่มจำนวนผู้ติดตามบนบัญชีทางไลน์ได้มากกว่า 1,000 คนต่อเดือน และเพิ่มอัตราเปิดอ่านข้อความถึง 40%
4. ช่วยประหยัดต้นทุนทั้งเวลา
ระบบ CRM ช่วยคุณประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะว่าข้อมูลลูกค้าในระบบแสดงอย่างโปร่งใส ทีมของคุณจึงสามารถเลือกใช้ข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องค้นหาจากหลายแพลตฟอร์มให้เสียเวลา
นอกจากนี้ทุกฝ่ายจะสามารถเข้าใจกระบวนการทำงานของฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ประหยัดเวลาที่ต้องคอยติดตามการทำงานจากผู้ที่เกี่ยวข้องของแต่ละฝ่าย ที่สำคัญระบบ CRM ยังช่วยตัดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น ทำให้ทีมสามารถโฟกัสเฉพาะกิจกรรมที่สร้างรายได้ให้บริษัท
5. สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า
การใช้ CRM เป็นศูนย์กลางของการจัดการข้อมูลลูกค้าดังที่กล่าวไปข้างต้นจะส่งผลให้ให้ทีมงานของคุณสื่อสารและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าแต่ละรายต้องการได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจเพราะรู้สึกได้รับการดูแลจากแบรนด์เป็นอย่างดี มีความใส่ใจต่อลูกค้า
เมื่อระดับความพึงพอใจที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์สูง ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำจนเกิด brand loyalty ในระยะยาว การใช้ประโยชน์จากการเก็บข้อมูลลูกค้าในระบบ CRM จึงมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้แบรนด์คุณมอบ customer journey อันน่าประทับใจและสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในที่สุด
ตัวอย่างของการใช้งาน CRM
MAAC เป็นระบบ CRM คุณภาพที่พัฒนาโดยบริษัท Crescendo Lab โดยระบบ CRM นี้ออกแบบมาเพื่อใช้เก็บข้อมูลลูกค้าบนบัญชีทางการไลน์ (LINE Official Account) ของแบรนด์เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์และทำการตลาดแบบ Personalized โดยเฉพาะ
เราจะยกตัวอย่างการใช้งานระบบ LINE CRM ให้คุณเห็นภาพชัดเจน ดังนี้
เจนนี่เป็นผู้ใช้งานท่านหนึ่งโดยเธอมีความต้องการที่จะซื้อไม้เทนนิส เธอจึงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับไม้เทนนิสแต่ละประเภทบนอินเทอร์เน็ตและกดเข้ามาดูสินค้าบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัท C นี่จะเป็นจังหวะที่ระบบ CRM (MAAC) ของบริษัท C จะเริ่มเข้ามามีบทบาท
ฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง | การทำงานของระบบ CRM |
ทีมการตลาด (Marketing) | ทีมการตลาดของบริษัท C เห็นว่า เจนนี่เข้ามาดูไม้เทนนิสรุ่น Z ทั้งหมด 20 ครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางทีมจึงส่งอีเมลอัตโนมัติถึงเจนนี่ เพื่อแจ้งเตือนว่าสุดสัปดาห์นี้จะมีกิจกรรมให้ทดลองสินค้าฟรี |
ทีมขาย (Sales) | เมื่อเจนนี่มาถึงหน้างานกิจกรรมตามที่ได้โปรโมทไว้ทางอีเมล พนักงานขายก็จะรู้อยู่แล้วว่าเจนนี่ชอบไม้เทนนิสรุ่นไหน ทำให้เธอไม่ต้องเสียเวลาและสามารถทดลองใช้ไม้เทนนิสรุ่นที่สนใจได้ทันที |
ทีมบริการลูกค้า (Customer Service) | เมื่อเจนนี่กลับถึงบ้านพร้อมไม้เทนนิสอันใหม่ เธอก็ได้รับข้อความบน LINE OA จากบริษัท C เพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลไม้เทนนิสที่เธอเพิ่งซื้อไป และยังมีเจ้าหน้าที่คอยตอบคำถามที่เธอสงสัยตลอดเวลา |
หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ฝ่ายการตลาดก็จะคอยแจ้งเตือนเจนนี่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตรงกับความต้องการของเธอ เราจึงสรุปได้จากตัวอย่างนี้ว่า CRM สามารถช่วยให้แบรนด์ทำ re-marketing อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาที่พบบ่อยในแบรนด์ที่ไม่ใช้ CRM
CRM เปรียบเสมือนตัวกลางที่ประสานทีมภายในตอนสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว มาดูกันว่าแบรนด์ไม่ใช้ระบบ CRM มักพบปัญหาอะไรบ้าง
1. ตอบคำถามลูกค้าได้ยาก
ปัจจุบันหลายองค์กรเลือกที่จะขายสินค้าในหลายช่องทาง (omni-channel) เพื่อมอบประสบการณ์ผู้บริโภค (customer experience) ที่ราบรื่น ทำให้ลูกค้าติดต่อเข้ามาสอบถามในหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน แบรนด์จึงต้องใช้เวลาตอบคำถามเรื่องเดิม ๆ ในช่องทางใหม่ ดังนั้นการทำงานที่ซ้ำซ้อนนี้ทำให้ทีมโต้ตอบลูกค้าให้ครบทุกรายได้ยาก ซึ่งอาจทำให้แบรนด์สูญเสียลูกค้าในที่สุด
2. ทีมสื่อสารกันผิดพลาด
แบรนด์ที่ไม่ยอมลงทุนกับ CRM เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ทีมภายในองค์กรคุณสื่อสารผิดพลาด เพราะข้อมูลลูกค้ากระจัดกระจายทำให้ทีมหลายฝ่ายอาจะเกิดความสับสนว่าข้อมูลไหนเป็นข้อมูลที่อัปเดตใหม่ล่าสุด ระบบ CRM จึงเป็นโซลูชันที่ดีที่เข้ามาช่วยคุณบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญคือช่วยให้ทีมภายในองค์กรสื่อสารระหว่างทีมและสื่อสารกับลูกค้าไปในทิศทางเดียวกัน
3. ข้อมูลลูกค้ากระจัดกระจาย
หากแบรนด์คุณไม่มีแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลลูกค้า ปัญหาชวนปวดหัวที่ตามมาคือ รายชื่อ และข้อมูลสำคัญของลูกค้าจะกระจัดกระจายอยู่ในระบบต่าง ๆ ภายในองค์กรอย่างสะเปะสะปะ นอกจากนี้ยังทำให้เข้าถึงข้อมูลลูกค้าที่ต้องการได้ยาก และสร้าง customer journey ที่ไม่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า
ยกตัวอย่างให้คุณเห็นภาพ แน่นอนว่าพนักงานแต่ละคนมีกระบวนการทำงานต่างกัน เมื่อไม่มีระบบ CRM พนักงานแต่ลคนจึงมีวิธีการบันทึกข้อมูลลูกค้าเป็นของตัวเอง เช่น จดในสมุด บันทึกใน spread sheet หรือคีย์ข้อมูลใน Microsoft Word เมื่อผู้จัดการฝ่ายขายต้องการข้อมูลลูกค้าทั้งหมด ทางทีมจึงต้องเสียเวลารวบรวมข้อมูลใหม่ในที่เดียว แทนที่จะดึงข้อมูลจากระบบ CRM ได้ง่าย ๆ ในแพลตฟอร์มเดียว
4. ทีมบริการลูกค้าทำงานลำบาก
ทีมบริการลูกค้ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าเมื่อลูกค้าพบเจอปัญหาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่ตัดสินใจซื้อไป เรียกได้ว่า การบริการหลังการขายเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าลูกค้าอยากที่จะใช้บริการแบรนด์ซ้ำหรือไม่เลยก็ว่าได้ เมื่อขาด CRM ทีมบริการลูกค้าจะไม่สามารถติดตามได้ว่า พนักงานคนไหนดูแลปัญหาลูกค้าเคสไหน และเคสนั้นถูกแก้ไปแล้วหรือยัง เราจึงสรุปได้ว่าแบรนด์ที่ไม่ใช้ CRM จะสร้างความลำบากในการทำงานของทีมบริการลูกค้าเพราะไม่สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง
ฟีเจอร์เด็ดบน LINE CRM ที่ช่วยแบรนด์คุณเพิ่มยอดขายได้จริง
ประเทศไทยมีผู้ใช้งาน LINE มากกว่า 54 ล้านคน นอกจากการทำ LINE Marketing แล้ว ระบบ LINE CRM ก็สำคัญในการดึงดูดลูกค้าใหม่ และเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ ระบบ MAAC เป็น CRM ที่โฟกัสเรื่องการบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้าบน LINE โดยเฉพาะ Crescendo Lab ได้คัดสรร 5 ฟีเจอร์เด็ดที่รับรองว่ามีประโยชน์ต่อธุรกิจคุณแน่นอน
ฟีเจอร์ Deeplink
Deeplink เป็นฟีเจอร์เบื้องต้นที่ช่วยให้แบรนด์คุณรู้ว่าลูกค้ากดติดตามบัญชี LINE OA ของคุณจากที่ไหน โดยคุณสามารถสร้าง QR Code หรือ link ได้ในระบบหลังบ้านของ LINE CRM (MAAC) ได้ง่าย ๆ คุณยังสามารถตั้งชื่อแท็กได้เองว่าคิวอาร์โค้ดหรือ deeplink แต่ละอันมาจากการสแกนหรือคลิกในช่องทางใด เมื่อมีผู้ใช้งานสแกนหรือคลิกระบบก็จะแสดงข้อมูลว่ามีกี่คนและใครมาที่สแกนเข้ามา โดยระบบยังแยกให้อีกว่ามีผู้ใช้งานใหม่กี่คน และผู้ใช้งานเดิมกี่คน ได้แก่บัญชีใดบ้าง
ฟีเจอร์ deeplink จึงเปรียบเสมือนประตูด่านหน้าที่คัดกรองข้อมูลลูกค้าตั้งแต่แรก เพื่อช่วยให้แบรนด์คุณทำการตลาดได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ Auto-tagging
หลังจากได้ข้อมูลลูกค้ามาเก็บไว้บนระบบ CRM เป็นที่เรียบร้อย แบรนด์ก็สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้นโดยการทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยการส่งบรอดแคสต์หาลูกค้าของแต่ละสาขาผ่านแท็กที่ถูกติดไว้ตอนเพิ่มเพื่อน เพื่อเชิญชวนให้ลูกค้ามาเยี่ยมชม ซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่หน้าร้านได้ยิ่งไปกว่านั้นหากลูกค้าได้ทำการคลิกที่ริชเมนู (Rich Menu) บน LINE OA เพื่อดูสินค้าหรือกิจกรรมต่างๆ ลูกค้าคนนั้นก็จะถูกติดแท็กทันทีที่คลิก ทำให้คุณรู้ว่าลูกค้าแต่ละรายสนใจสินค้าอะไร
ฟีเจอร์ Smart Sending
ระบบ LINE CRM อย่าง MAAC ยังมีฟีเจอร์ Smart Sending ที่ให้แบรนด์สามารถปรับเวลาส่งข้อความให้ลูกค้ารายบุคคลโดยอิงจากกิจกรรมที่ลูกค้ามีส่วนร่วม ระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติจากการสำรวจข้อมูลฐานนิยมว่าลูกค้าแต่ละรายมีการเปิดอ่านข้อความช่วงเวลาใดมากที่สุด แล้วระบบก็จะส่งบรอดแคสต์ในช่วงเวลาเพื่อเพิ่มโอกาสการเปิดอ่านข้อความ และนำเสนอสินค้าที่ลูกค้าสนใจในเวลาที่ใช่ที่สุด
ฟีเจอร์ Smart Recommendation
MAAC ระบบ CRM บนไลน์ยังมีฟีเจอร์ที่ให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลลูกค้าที่เก็บได้ไปวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ตั้งแต่การเรียกดูสินค้า การเพิ่มสินค้าในตะกร้า การซื้อ ซึ่งจะทำให้ระบบสามารถทำ remarketing แนะนำสินค้าได้ตรงตามความต้องการและยังช่วยเพิ่มโอกาสในซื้อสินค้าและบริการ
ฟีเจอร์เก็บข้อมูลลูกค้าด้วยแบบสอบถามออนไลน์
ฟีเจอร์นี้จะช่วยลดความยุ่งยากในการเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านแบบสอบถามในรูปแบบกระดาษ ทางแบรนด์สามารถใช้ SurveyCake เก็บข้อมูลลูกค้าผ่านแบบสอบถามออนไลน์ พร้อมมอบสิทธิพิเศษจูงใจให้ลูกค้ากรอกข้อมูลเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของแบรนด์ อีกทั้งยังนำข้อมูลจากแบบสอบถามออนไลน์ไปสร้างมูลค่า โดยการใช้ข้อมูลเหล่านั้นวิเคราะห์เพื่อวางแผนการตลาด และกิจกรรมต่างๆให้เหมาะสมกับลูกค้าของทางแบรนด์อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
Success Case: Nissan กับความสำเร็จในการใช้ระบบ LINE CRM
เนื่องจาก NISSAN ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาผสมผสานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อธุรกิจ ทางบริษัทจึงเลือกใช้ระบบ CRM เป็นเครื่องมือหลักเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคทาง LINE OA
ทาง NISSAN ได้ตัดสินใจจับมือกับ Crescendo Lab เพื่อร่วมมือกันวางแผนแคมเปญเปิดตัวรถรุ่นใหม่ผ่าน LINE OA ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม MAAC โดยการใช้ฟังก์ชันมากมาย เช่น “Deeplink” เพื่อดึงดูดผู้ชม, “Surveycake” เพื่อรวบรวมข้อมูลจากทั้งออฟไลน์และออนไลน์ , “Stores near me” ที่เมนูข้อความเพื่อแนะนำลูกค้าให้ไปโชว์รูมที่ใกล้ที่สุด ฯลฯ
การเข้าใจลูกค้าและสื่อสารได้อย่างตรงจุดทำให้ในปี 2022 NISSAN มีเพื่อนเพิ่มบน LINE OA มากกว่า 1,000 คนต่อเดือน และอัตราการเปิดอ่านข้อความสูงถึง 40% ที่มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป
อ่านบทความเต็มของ Nissan Success Case: คลิกเลย
เคล็ดลับทิ้งท้าย
หลังจากที่ได้รู้ว่า CRM คืออะไร, มีประเภทใดบ้าง, และประโยชน์สำคัญที่ CRM มีต่อธุรกิจ จะเห็นได้ว่าระบบซอฟต์แวร์นี้คุ้มค่าแก่การลงทุนหากธุรกิจคุณมองหาความสำเร็จแบบยั่งยืน
ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน LINE ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน Crescendo Lab จึงตั้งใจพัฒนาแพลตฟอร์ม MAAC ขึ้นมาเป็นตัวช่วยให้แบรนด์ทำการตลาดอย่างแม่นยำเพื่อต่อสู้กับการแข่งขันทางธุรกิจอันดุเดือด ซึ่งมาพร้อมกับแพ็คเกจที่หลากหลายโดยคุณสามารถพิจารณาตามความเหมาะสมของแบรนด์คุณ นอกจากนี้เราแนะนำให้ใช้ CRM ควบคู่กับระบบรวมแชท CAAC เพื่อยกระดับการทำงานเป็นทีมภายในองค์ร รวมไปถึงทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด