SMS Service คืออะไร? เราจะใช้ SMS Online ทำ Marketing ได้อย่างไร
Crescendo Lab Thailand
ติดตาม Crescendo Lab สำหรับสาระน่ารู้ในแวดวง MarTech คลิกเลย!
หนึ่งในอุปกรณ์ที่คนเอาไว้ติดตัวตลอด และเฉลี่ยคนไทยใช้งานมากกว่าวันละ 5 ชั่วโมงต่อวัน ก็คือมือถือ จาก Insight นี้ เราคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำ Marketing โดยใช้ SMS Service เพื่อเพิ่ม Engagement เพิ่มยอดขาย และทำให้แบรนด์ของเรายังคงอยู่ในสายตาของลูกค้า เป็นที่รับรู้อยู่เสมอ ในทางภาษาการตลาดเราจะเรียกวิธีการทำการตลาดนี้ว่า SMS Marketing แล้วหากเกิดคำถามว่ามันยังคงได้ผลไหมในปี 2025 ? และเราจะดันประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด เมื่อใช้ SMS Service ให้ได้ผลที่สุดต้องทำอย่างไร จึงเป็นที่มาที่เราต้องเขียนบทความในวันนี้ เพื่อเป็น Deep Information ดี ๆ ให้กับผู้ที่กำลังศึกษา และกำลังนำไปปรับใช้จริง
พาไปรู้จัก SMS Service คืออะไร?
หลายคนคงคุ้นเคยกับการรับข้อความสั้น ๆ แจ้งเตือนเข้ามือถือจากบริษัทต่าง ๆ สิ่งนี้ก็คือบริการที่เราเรียกว่า SMS Service หรือ Short Message Service ตัวอย่างเช่นว่าคุณเพิ่งโอนเงินผ่านแอปธนาคาร แล้วมีข้อความยืนยันการทำรายการ หรือตอนที่คุณสั่งของออนไลน์ แล้วได้รับข้อความแจ้งสถานะการจัดส่ง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วย SMS Service
เราสามารถส่งข้อความได้ทั้งข้อความตัวอักษร ตัวเลข หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ โดยมีความยาวข้อความสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 160 ตัวอักษร SMS Service ถูกนำไปใช้งานในหลากหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่ส่วนบุคคล เช่น แจ้งข่าวสารระหว่างเพื่อน ส่งข้อความอวยพร ไปจนถึงภาคธุรกิจ เช่น ธนาคารแจ้งรายการเคลื่อนไหวของบัญชี ส่ง SMS OTP Service ร้านค้าส่ง SMS แจ้งโปรโมชัน โรงพยาบาลนัดหมายคนไข้ SMS สำหรับ Activation Service ต่าง ๆ ที่เราใช้ เป็นต้น
SMS เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหลากหลายธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภค นับตั้งแต่ช่วงที่เข้าสู่ยุคโทรศัพท์มือถือ และแม้เทคโนโลยีการสื่อสารจะก้าวหน้าไปไกล แต่ SMS ก็ยังคงเป็นบริการที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน
4 ประเภทหลักของ SMS Service
Bulk SMS
เป็นการส่งข้อความจำนวนมาก (Mass Messaging) ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น SMS การตลาด, SMS โฆษณา, SMS แจ้งข่าวสาร เป็นต้น Bulk SMS เหมาะกับการสื่อสารไปยังฐานลูกค้าจำนวนมาก
Transactional SMS
คือข้อความที่ส่งไปยังลูกค้ารายบุคคล เพื่อยืนยันหรือแจ้งสถานะของรายการต่าง ๆ เช่น SMS แจ้งรหัส, SMS OTP Service ยืนยันการชำระเงิน, SMS แจ้งสถานะการจัดส่ง ใบเสร็จทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
Two-way SMS
เป็นข้อความแบบ 2 ทาง โดยผู้รับสามารถตอบกลับมาได้ ใช้สำหรับการตอบคำถาม รับข้อเสนอแนะ หรือโต้ตอบกันได้แบบ Real-Time เช่น บริการลูกค้าผ่าน SMS, การส่ง SMS เพื่อรับของรางวัล เป็นต้น
SMS API
เป็นระบบ SMS Service ที่เชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันภายนอกเป็นประเภทของ SMS ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะการนำไปใช้และความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ
ความแตกต่างระหว่าง SMS Service แบบดั้งเดิมกับ Online SMS Service
SMS Service ในยุคแรกจะเป็นแบบ SMS ดั้งเดิม ซึ่งต้องทำผ่านผู้ให้บริการมือถือเท่านั้น โดยอาจต้องเซ็นสัญญากับเครือข่าย ใช้อุปกรณ์เฉพาะทางในการส่ง และมีค่าใช้จ่ายสูง ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้เกิด SMS แบบ Online ที่สามารถส่งผ่านเว็บไซต์ หรือ Application ได้โดยไม่ต้องผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์ มีความยืดหยุ่นสูง และราคาถูกลง
- ด้านความสะดวก Online SMS ไม่จำเป็นต้องใช้มือถือและซิมมือถือ สามารถจัดการทุกอย่างได้ผ่านเว็บไซต์ มีระบบรายงานผลและการวิเคราะห์ว่ามีคนเปิดอ่านกี่คนเป็นต้น
- ด้านความคุ้มค่า Online SMS มีช่องทางการจัดซื้อแพ็คเกจ SMS หลากหลาย และสามารถเลือกซื้อเครดิตได้ตามความต้องการ ต้นทุนจึงต่ำกว่า SMS แบบเดิมที่ต้องซื้อมือถือ ซื้อซิมการ์ดและค่าใช้จ่ายรายเดือนค่อนข้างสูง
- ด้านฟีเจอร์: Online SMS มีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น การกำหนดเวลาส่งข้อความ, จัดกลุ่มผู้รับ, ตัวอย่าง SMS เพื่อช่วยให้ออกแบบข้อความได้ถูกใจ และส่งได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่ SMS แบบดั้งเดิมจะจำกัดอยู่เพียงการส่งและรับข้อความเท่านั้น
- ด้านการเชื่อมต่อ: เราสามารถเชื่อม Online SMS Service กับเครื่องมือทางการตลาดอื่น ๆ เช่น Solution ของ Crescendo Lab ที่เป็นวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกบน LINE อย่าง MAAC ได้ เพื่อให้ แคมเปญการตลาด SMS ของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ หรือจะเชื่อมกับ API อื่น ๆ ได้
Online SMS Service Provider ทำงานอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว Online SMS Service Provider ทำงานผ่าน SMS Gateway ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยในการเชื่อมต่อการส่งข้อความ SMS ไปยัง Operator เพื่อส่งต่อไปยังผู้รับข้อความในแต่ละเครือข่าย โดยเริ่มต้นที่
1.ผู้ส่งสร้างข้อความบนระบบของผู้ให้บริการ
2.ข้อความถูกส่งไปยัง SMSC (Short Message Service Center)
3.SMSC ตรวจสอบและกำหนดเส้นทางข้อความไปยังเครือข่ายของผู้รับ
4.ข้อความถูกส่งไปยังอุปกรณ์ของผู้รับ
เปรียบเทียบจุดเด่น-จุดด้อยของการทำ SMS Service Marketing
ไม่มีวิธีการในทางการตลาดอะไรที่จะ Perfect ไปทุก ๆ ด้าน แต่การที่เราได้รู้จุดเด่น-จุดด้อย ของวิธีที่เราจะใช้ จะทำให้เราอุดช่องว่าง แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับ SMS Marketing ก็เช่นกัน เรามาดูกันว่าจะมีจุดเด่น-จุดด้อย อะไรที่เราต้องรู้บ้าง
จุดเด่นของ SMS Marketing
-
อัตราการเปิดอ่านสูง : SMS มีอัตราการเปิดอ่านสูงถึง 95% เนื่องจากผู้รับมักจะสังเกตเห็นการแจ้งเตือนบนหน้าจอโทรศัพท์ทันที และด้วยความที่ข้อความสั้นกระชับ ทำให้ผู้รับสามารถอ่านได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เวลามาก
-
เข้าถึงผู้รับได้โดยตรงและรวดเร็ว : ข้อความ SMS จะถูกส่งตรงไปยังโทรศัพท์มือถือของผู้รับ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ติดตัวผู้คนตลอดเวลา ทำให้สามารถสื่อสารข้อมูลสำคัญหรือโปรโมชันเร่งด่วนได้อย่างทันท่วงที
-
ไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต : ข้อได้เปรียบที่สำคัญคือผู้รับสามารถรับข้อความได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพียงแค่มีสัญญาณโทรศัพท์ก็เพียงพอ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวางมากขึ้น
-
ค่าใช้จ่ายคุ้มค่า : เมื่อเทียบกับช่องทางการตลาดอื่น ๆ SMS Marketing มีต้นทุนที่ต่ำกว่า ทั้งยังสามารถวัดผลได้ชัดเจน ทำให้คุ้มค่ากับการลงทุน
จุดด้อยของ SMS Marketing
- ข้อจำกัดด้านความยาวข้อความ : ด้วยข้อจำกัดที่ 160 ตัวอักษรต่อข้อความ ทำให้ต้องระมัดระวังในการเลือกใช้คำและการสื่อสารให้กระชับ หากเกินกว่านี้จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นเนื่องจากต้องแบ่งส่งหลายข้อความ
- ความเสี่ยงในการถูกมองว่าเป็น Spam : หากส่งข้อความถี่เกินไปหรือเนื้อหาไม่ตรงกับความต้องการของผู้รับ อาจทำให้แบรนด์ถูกมองในแง่ลบและถูกบล็อกการรับข้อความได้ ดังนั้นจึงต้องวางแผนความถี่และเนื้อหาให้เหมาะสม
- ข้อจำกัดด้านมัลติมีเดีย : SMS Service โดยทั่วไปจะ ไม่สามารถส่งรูปภาพ วิดีโอ หากส่งได้ ก็จะติดข้อจำกัด ไม่สามารถส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้ ทำให้การนำเสนอเนื้อหาที่ต้องการความน่าสนใจด้านภาพหรือเสียงทำได้ยาก ต้องพึ่งพาการลิงก์ไปยังช่องทางอื่นแทน
ข้อมูล Marketing Insight ที่จะบอกว่าทำไมธุรกิจต้องทำ SMS Marketing?
หากเราจะเลือกวิธีการทำ Marketing วิธีหนึ่งที่ดีที่สุดคือการดู Insight จริง ๆ ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งในหัวข้อนี้ ทาง Crescendo Lab ซึ่งเราก็มีบริการ SMS Service ที่เอาไว้ให้คุณเอาไปทำ SMS Marketing ได้ทำข้อมูลทางสถิติขึ้นมาไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง
คนไทยใช้มือถือมากว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน
ทางตัวเลขเฉลี่ยที่คนไทยใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือเฉลี่ยมากกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน บ่งชี้ว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสื่อหลักที่คนไทยใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังม่ีข้อความ SMS ส่งทั่วโลกมากกว่า 5 พันล้านข้อความ การส่ง SMS ที่มีเนื้อหาน่าสนใจและตรงกับความต้องการของลูกค้า จึงเป็นช่องทางที่มีศักยภาพสูงในการเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อัตราการเปิดอ่าน SMS อยู่ที่ 95%
อัตราการเปิดอ่าน SMS อยู่ที่ 95% ถือเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับช่องทางการตลาดอื่น ๆ เช่น อีเมล นั่นหมายความว่าเมื่อธุรกิจส่ง SMS ให้กับลูกค้า โอกาสที่ลูกค้าจะเปิดอ่านข้อความนั้นมีสูงถึง 95% ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของ SMS ในการเข้าถึงลูกค้า
อัตราการคลิก SMS อยู่ที่ 19%
การที่ลูกค้าคลิกลิงก์ใน SMS แสดงให้เห็นถึงความสนใจและความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมกับแคมเปญหรือข้อเสนอของธุรกิจ ดังนั้น SMS จึงเป็นช่องทางที่มีศักยภาพสูงในการกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ ร้านค้า หรือใช้โปรโมชันที่ธุรกิจนำเสนอ
91% ลูกค้าต้องการรับ SMS เพื่อติดตามข่าวสารของแบรนด์
แสดงให้เห็นว่าลูกค้าเปิดรับและยินดีที่จะรับข้อมูลจากแบรนด์ที่เขาชื่นชอบผ่านทาง SMS ธุรกิจจึงควรใช้โอกาสนี้ในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า โดยส่งข้อความที่มีคุณค่าและเกี่ยวข้องกับความสนใจของลูกค้า เช่น ข่าวสาร โปรโมชัน หรือข้อเสนอพิเศษ ซึ่งจะช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
51% ลูกค้าซื้อสินค้า หลังได้รับ SMS
นี่คือข้อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของ SMS Marketing ในการผลักดันยอดขาย เมื่อลูกค้าได้รับข้อความที่น่าสนใจ เกี่ยวข้อง และมีข้อเสนอพิเศษ จะทำให้เกิดแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ
95 % ของนักการตลาดมองว่า SMS ช่วยเพิ่มรายได้
นักการตลาดกว่า 95% เห็นว่า SMS ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงศักยภาพและประสิทธิผลของ SMS Marketing ในการสร้างยอดขาย นักการตลาดส่วนใหญ่ใช้ SMS เป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารและส่งเสริมการขาย เนื่องจากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการเพิ่มรายได้และการเติบโตของธุรกิจ
อ้างอิง : 30+ Small Business Marketing Statistics & Trends in 2025, From Luisazhou.com
เทคนิคการเขียนข้อความ SMS Marketing ให้น่าสนใจและได้ผลในปี 2025
ขอให้เราจำ Keywords สำหรับเทคนิคการเขียนข้อความ SMS Marketing เอาไว้ 4 อย่าง ส่งให้ตรงกลุ่ม , ส่งสิ่งที่เขาต้องการ , ส่งให้น่าสนใจ และ ส่งให้ถูกเวลา นี้คือเทคนิคหลัก ซึ่งหากจะเจาะลงย่อยก็จะมี 10 เทคนิคที่เราจะดังต่อไปนี้
- เขียนข้อความสั้น กระชับ ตรงประเด็น ส่งสารได้ชัดเจนภายใน 160 ตัวอักษร เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านข้อความยาว ๆ บนโทรศัพท์มือถือ
- ใช้ภาษาที่สื่อสารถึงประโยชน์ของสินค้าหรือบริการ ว่ามีคุณค่าอย่างไรกับผู้อ่าน ทำให้เขาเห็นเหตุผลในการเปิดอ่าน SMS และสนใจซื้อสินค้า
- เพิ่มสาระดี ๆ ที่ไม่ใช่แค่การขาย ให้ SMS มีความน่าสนใจ เช่น บทความสั้น ๆ เคล็ดลับ ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ คำคม กำลังใจดี ๆ เพื่อสร้างความผูกพันกับผู้อ่าน
- ใส่ Call to action ชัดเจน บอกให้ผู้อ่านรู้ว่าควรทำอะไรต่อ เช่น คลิกลิงก์ โทรสอบถาม สั่งซื้อทันที อย่าปล่อยให้ลูกค้าเดาเอาเองว่าต้องทำอย่างไร
- ใช้อีโมจิ สติกเกอร์ อิโมติคอน ช่วยให้ SMS มีสีสัน ดึงดูดความสนใจ แต่ไม่ควรใช้มากจนเกินไป ควรใช้แทรกให้เหมาะสม
- ส่งข้อความตรงเวลา ดูช่วงเวลาที่เหมาะสมในการส่ง SMS เช่น เวลาพักเที่ยง ช่วงเย็นหลังเลิกงาน เพราะเป็นเวลาที่คนมักจะว่างและพร้อมจะอ่านข้อความ
- ส่งข้อความตามความชอบของแต่ละคน (Personalized Message) โดยนำข้อมูลลูกค้ามาใช้ประโยชน์ เช่น เขาเคยซื้อสินค้าหมวดหมู่ไหน ให้ส่ง SMS โปรโมชันสินค้าที่เขาน่าจะสนใจ
- เชื่อมต่อกับช่องทางออนไลน์อื่น ๆ เช่น ใส่ลิงก์ในข้อความไปยังหน้าเว็บไซต์ เพจโซเชียลมีเดีย แชตบอต เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการติดต่อกับแบรนด์
- หมั่นทดสอบ AB testing และปรับปรุงเทคนิค โดยส่ง SMS รูปแบบต่าง ๆ ไปยังกลุ่มตัวอย่าง เพื่อวัดผลตอบรับและนำผลมาวิเคราะห์ หาจุดที่ควรพัฒนา เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นไป
- อย่าส่ง SMS บ่อยเกินไป ควรให้ระยะห่าง ไม่ควรมากกว่า 2-4 ครั้งต่อเดือน เพราะอาจรบกวนลูกค้าและถูกมองเป็นสแปมได้
โซลูชัน MAAC เพิ่มประสิทธิภาพ SMS Marketing ได้อย่างไร
Crescendo Lab เรานำเสนอบริการ SMS Service ที่จะนำมารวมใช้ร่วมกับโซลูชัน MAAC เป็นวิธีการทำ Marketing ผ่านการผสมผสานเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก โดยระบบสามารถรองรับการส่งข้อความด้วยความเสถียรภาพสูงถึง 99.999% พร้อมความเร็วในการส่งที่สูงถึง 2,000 ข้อความต่อวินาที ใต้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ISO27001
โดยนำจุดเด่นของ MAAC คือ ความสามารถในการทำ Data Tagging และ Segmentation ที่แม่นยำ ระบบสามารถติดแท็กพฤติกรรมของลูกค้าโดยอัตโนมัติเมื่อมีการคลิกลิงก์ ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้าง Customer Profile แบบ 360 องศา และทำ Personalization ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบ AI Smart Sending ที่วิเคราะห์ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการส่งข้อความถึงลูกค้าแต่ละกลุ่ม
MAAC ยังนำเสนอโซลูชั่น SMS+ ที่เชื่อมต่อการทำงานระหว่าง SMS และ LINE ผ่าน API โดยระบบจะวิเคราะห์และเลือกช่องทางการส่งข้อความที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ
โดยหากลูกค้าได้เพิ่มเพื่อนกับทางแบรนด์ใน LINE OA แล้วระบบจะเลือกส่งข้อความผ่าน LINE Push ซึ่งเป็นช่องทางที่ค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด หากยังไม่เป็นเพื่อนใน LINE แต่ตั้งค่าเปิดรับข้อความ Notification เพียงแบรนด์มีเบอร์โทรศัพท์มือถือของลูกค้าและเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน API ไว้ระบบก็จะส่งข้อความหาลูกค้าผ่าน LON หรือ LINE official Notification ซึ่งเป็นช่องทางที่ค่าใช้จ่ายรองลงมา หากไม่สามารถส่งทาง LINE ได้จึงย้ายมาส่งที่ SMS
วิธีนี้นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 60-80% เมื่อเทียบกับการส่ง SMS เพียงอย่างเดียวแล้ว ยังช่วยลดความกลัวข้อความสแกมเมอร์ของลูกค้าลง จาก Interface ของ LINE Push และ LON หรือ LINE official Notification ที่ออกแบบมาให้สะท้อนความน่าเชื่อถือและตัวตนของแบรนด์ โซลูชันนี้ ยังสามารถใช้ SMS ในการดึงดูดลูกค้าไปยัง LINE OA เพื่อเพิ่มผู้ติดตามและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ไม่ Active ได้อีกด้วย
ท้ายบทความ
ก่อนจะไปในวันนี้เราอยากจะฝากจุดหนึ่งสำหรับคนที่ใช้ SMS Service ในการทำการตลาด มักจะทำผิดพลาดก็คือ การยัดเยียดการขายมากจนเกินไป เขียนแต่ข้อความเกี่ยวกับการขายแข็ง ๆ ไปทั้งหมด ไม่ได้มอบคุณค่าอะไรให้กับลูกค้าเลย ซึ่งข้อความรูปแบบนี้ ลองนึกถ้าเป็นเรา แค่เปิดขึ้นมาเห็น ไม่ทันได้อ่านทั้งหมด ก็อยากจะปิดแล้ว ดังนั้นสำหรับคนที่ใช้ SMS Marketing อยากจะให้เราใช้วาทศิลป์ในการเขียนข้อความเหมือนกับที่เราไปเป็น Sale ขายของ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี
สนใจเครื่องมือเทคโนโลยีการตลาด MarTech เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ LINE OA ของคุณ ปรึกษาทีมงานฟรี!
Crescendo Lab TH
The editing group of Crescendo Lab Thailand