คู่มือสร้าง LINE Rich Menu ให้ยอดขายพุ่ง (ฉบับมือโปร) ปี 2025
LINE Marketing • 1 พ.ย. 2024, 17:12:02 • Written by: Ainee S.
อย่าลืมกดติดตาม Crescendo Lab สำหรับสาระน่ารู้ในสาย MarTech!
ยินดีต้อนรับสู่ "คู่มือ LINE Rich Menu ฉบับมืออาชีพ" ที่อัปเดตล่าสุด! บล็อกนี้รวบรวมทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Rich Menu ไว้ในที่เดียว พร้อมสอนวิธีสร้าง Rich Menu สุดเจ๋งไปทีละขั้นตอน รับรองว่าเมื่อคุณอ่านบล็อกนี้จบ คุณจะสามารถออกแบบและใช้งาน Rich Menu บน LINE OA ของแบรนด์ได้อย่างมือโปรภายใน 30 นาที
หลังอ่านบล็อกนี้เพียง 5 นาที คุณจะรู้จัก:
- ประโยชน์ของ Rich Menu
- ขนาด Rich Menu ล่าสุด
- วิธีสร้างริชเมนู
- เทคนิคออกแบบ Rich Menu
- และไอเดียเจ๋ง ๆ อีกมากมาย
LINE Rich Menu มีประโยชน์ต่อแบรนด์อย่างไร?
Rich Menu เป็นฟีเจอร์ที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ เพราะช่วยเพิ่มศักยภาพทั้งด้าน การตลาด, การสร้างแบรนด์ และ การบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ทำให้แต่ละส่วนทำงานได้อย่างราบรื่นและมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า
ด้านการตลาด (Marketing)
ในเชิงการตลาดนั้น Rich Menu เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลเชิงการตลาดของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์, บัตรสะสมแต้ม, หรือโปรโมชันที่กระตุ้นการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญ แบรนด์ยังสามารถเก็บข้อมูลการใช้งานของลูกค้า โดยดูจากพฤติกรรมการคลิกเมนูต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อทำการตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการสื่อสารและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ดียิ่งขึ้น
ด้านการสร้างแบรนด์ (Branding)
Rich Menu ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการจดจำแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายแบรนด์มักออกแบบริชเมนูให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) ทั้งในเรื่องของสี โลโก้ และกราฟิกต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เพียงเพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้น สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ด้านการบริการลูกค้า (Customer Service)
ริชเมนูเป็นฟีเจอร์มีบทบาทสำคัญต่อด้านการบริการลูกค้าไม่แพ้กัน แบรนด์สามารถเพิ่มปุ่มสำหรับติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้ง่ายขึ้น หรือจะสร้างเมนู “คำถามที่พบบ่อย” (FAQ) ให้ลูกค้าสามารถค้นหาคำตอบที่ต้องการได้ด้วยตนเองอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่เพียงช่วยลดเวลารอคอย แต่ยังช่วยทีมแอดมินประหยัดเวลาในการตอบคำถามซ้ำ ๆ สร้างประสบการณ์การบริการที่รวดเร็วทันใจผู้ใช้งานทุกคนได้อีกด้วย
_____________________________________________________________________________________________
ขนาดของ Rich Menu ล่าสุดปี 2025
คุณสามารถสร้าง LINE Rich Menu แบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดผ่าน LINE for Business ซึ่งมีให้เลือก 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ ขนาดใหญ่ และ ขนาดเล็ก ตามขนาดล่าสุด ดังนี้
LINE Rich Menu ขนาดใหญ่ (Large)
คุณสามารถสร้างสูงสุด 6 เมนูสำหรับ Rich Menu ขนาดใหญ่ โดยมีเทมเพลตให้เลือกถึง 7 รูปแบบ
รูปแบบไฟล์: JPG, JPEG, PNG
ขนาดไฟล์: สูงสุด 1MB
ขนาดที่แนะนำ: 2500x1686 สำหรับความละเอียดสูงสุด
LINE Rich Menu ขนาดเล็ก (Small)
คุณสามารถสร้างสูงสุด 3 เมนูสำหรับ Rich Menu ขนาดเล็ก โดยมีเทมเพลตให้เลือกถึง 5 รูปแบบ
รูปแบบไฟล์: JPG, JPEG, PNG
ขนาดไฟล์: สูงสุด 1MB
ขนาดที่แนะนำ: 2500x843 สำหรับความละเอียดสูงสุด
_____________________________________________________________________________________________
วิธีสร้าง Rich Menu ทีละขั้นตอน
ท่านใดที่เป็นมือใหม่หัดสร้าง LINE Rich Menu เราแนะนำให้คุณสร้างเองได้ง่าย ๆ ผ่าน LINE for Business มาดูวิธีสร้างริชเมนูทีละขั้นตอนกันเลย!
1. เข้าสู่ระบบ LINE Official Account ของแบรนด์คุณ
ขั้นตอนแรก ให้คุณเข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz (LINE Official Account Manager) จากนั้นให้คุณกรอกข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย
*แนะนำให้ใช้ Google Chrome
2. เลือก Rich Menu แล้วเลือก 'สร้างใหม่'
ให้คุณคลิกที่ 'ริชเมนู' ซึ่งอยู่ตรงด้านซ้ายของหน้าจอ (แท็บหน้าหลัก > หน้าจอแชท > ริชเมนู) แล้วก็ให้คลิกที่ปุ่ม “สร้างใหม่”
3. ตั้งค่าเบื้องต้น
สำหรับขั้นตอนนี้ ให้คุณใส่รายละเอียดเพื่อตั้งค่าเบื้องต้นให้กับ Rich Menu ของคุณ ดังนี้
ชื่อ : ใส่ชื่อ 'ริชเมนู' (สูงสุดไม่เกิน 30 ตัวอักษร) โดยผู้ใช้งานจะไม่เห็นชื่อนี้
ช่วงเวลาที่แสดง : กำหนดช่วงเวลาที่ต้องการให้ริชเมนูแสดงที่หน้าแชท
*ริชเมนูจะสามารถเปิดใช้งานได้ทีละอันเท่านั้น หากมีการตั้งค่าไว้ซ้ำซ้อนกัน จะไม่สามารถกดปุ่ม 'บันทึก' ได้
4. เลือก Template
ขั้นตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งค่าคอนเทนต์ อันดับแรกให้คุณไปที่ปุ่ม ‘เลือกเทมเพลต’ เพื่อเลือกเทมเพลตที่ต้องการใช้แสดงริชเมนูของคุณ
เริ่มจากการเลือก Template ที่ต้องการที่ปุ่ม ‘เลือกเทมเพลต’ เมื่อเลือกเทมเพลตเรียบร้อยแล้ว ให้คุณอัปโหลดรูปพื้
5. เลือกรูป
แล้วก็เลือกรูปพื้นหลังของ Rich Menu โดยคลิกที่ ‘ตั้งค่า’ ในกรอบสี่เหลี่ยม ซึ่งจะมีตัวเลือกให้คุณเลือกวิธีสร้างรูป 2 แบบด้วยกัน
- อัปโหลดรูปพื้นหลัง : คุณสามารถอัปโหลดรูปที่ออกแบบเองเพื่อใช้เป็นพื้นหลังของริชเมนูตามขนาดที่ต้องการ
- สร้างรูปสำหรับแต่ละเมนู : คุณสามารถสร้างรูปสำหรับแต่ละเมนูได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์ข้อความ เลือกสีหรืออัปโหลดรูปเพื่อใช้เป็นฉากหลัง หรือใส่รูปไอคอนที่เตรียมไว้
เมื่อเลือกรูปพื้นหลังที่เหมาะสมแล้วให้คลิก ‘ใช้’ เพื่อใช้รูปที่ต้องการ
6. กำหนด Action
คุณสามารถกำหนดจำนวนแอ๊กชันตามเทมเพลตที่เลือกไว้ ตัวอย่างเช่น เทมเพลตขนาดใหญ่ จะเลือกได้สูงสุด 6 แอ๊กชัน และเทมเพลตขนาดเล็ก จะเลือกได้สูงสุด 3 แอ๊กชัน
โดยแอ๊กชันมีทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
- ลิงก์
- คูปอง
- ข้อความ
- บัตรสะสมแต้ม
- ไม่กำหนดแอ๊กชัน
7. ตั้งค่าเมนูบาร์แล้วกดบันทึก
จากนั้นให้คุณตั้งค่าเมนูบาร์ โดยให้ตั้งค่า:
- ข้อความบนเมนูบาร์ : กำหนดชื่อเมนูบาร์เพื่อแสดงริชเมนู ซึ่งจะแสดงบนแถบด้านล่างในห้องแชท
- การแสดงเมนูแบบเริ่มต้น : เลือก 'แสดง' เมื่อต้องการให้แสดงริชเมนูอัตโนมัติทันทีเมื่อลูกค้าเปิดหน้าจอแชท หรือเลือก 'ซ่อน' ให้ลูกค้ากดเมนูบาร์เพื่อดูริชเมนูเอง
ในขั้นตอนสุดท้ายให้คุณกด ‘บันทึกร่าง’ เพื่อบันทึกไว้แก้ไขภายหลัง หรือกด ‘บันทึก’ เพื่อเริ่มใช้งาน Rich Menu ก็เป็นอันเสร็จ!
_____________________________________________________________________________________________
แชร์ 5 เทคนิคออกแบบ Rich Menu แบบมือโปร
แน่นอนว่า LINE Rich Menu คือสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาผู้ใช้งานทันทีที่เพิ่มเพื่อนเข้ามาบน LINE OA ทำให้ฟีเจอร์นี้เปรียบเสมือนหน้าร้านที่สร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้า
เรามีเทคนิคเด็ด ๆ ที่จะช่วยให้คุณออกแบบ Rich Menu ให้มัดใจลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น ไปดูกันเคล็ดลับเหล่านี้กันเลย!
1. เลือกใช้โทนสีให้สอดคล้องกับแบรนด์
โทนสีที่ใช่สำหรับ Rich Menu นั้นควรสื่อถึงอัตลักษณ์แบรนด์ (Brand Identity) และช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจ
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ที่เรียบหรู การใช้โทนสีทอง ขาว หรือสีโทนเข้มจะช่วยสื่อถึงความหรูหราได้ดี หรือแบรนด์ที่มีความเป็นกันเอง สนุกสนาน อาจใช้สีสว่างสดใสเพื่อสร้างความเป็นมิตร ทั้งนี้ควรระวังการใช้สีมากเกินไป ทำให้สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งานได้
2. ออกแบบให้เรียบง่าย แต่โดดเด่น
หัวใจของการออกแบบ Rich Menu ก็คือ ดีไซน์ที่เรียบง่ายนั่นเอง แบรนด์ควรใช้กราฟิกที่ไม่ซับซ้อนและข้อความที่กระชับ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจการใช้งานริชเมนูได้ง่าย ๆ แต่ก็ควรสร้างจุดเด่นบางอย่างให้เมนูดูน่าสนใจ
ตัวอย่างเช่น ใช้ภาพไอคอนให้สอดคล้องกับข้อความที่ต้องการจะสื่อ ความเรียบง่ายที่ไม่ธรรมดานี่แหล่ะที่จะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์คุณได้ดียิ่งขึ้น
3. ใช้ Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน
การใช้ข้อความ Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจนก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าคลิกเมนูตามที่แบรนด์ได้ออกแบบไว้ เช่น “ดูโปรโมชัน,” “สมัครสมาชิก,” หรือ “สอบถามเพิ่มเติม”
เราแนะนำให้ใช้ CTA ที่เห็นได้ชัดเจน โดยใช้ขนาดตัวอักษรที่ใหญ่พอ ผสานกับการเลือกใช้สีที่ตัดกับพื้นหลังอย่างลงตัว เพื่อให้ข้อความ CTA นั้นโดดเด่นและเห็นได้ง่ายในสายตาลูกค้า
4. จัดวางเมนูให้เป็นระเบียบ
ในมุมมองของผู้ใช้งาน ริชเมนูที่มีการจัดวางองค์ประกอบอย่างเป็นระเบียบจะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น แบรนด์ควรจัดวางไอคอน ปุ่ม และข้อความในตำแหน่งที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น วางปุ่มที่สำคัญที่สุดไว้ด้านบน หรือเว้นช่องว่างระหว่างปุ่มไม่ให้เมนูดูแน่นเกินไป ริชเมนูที่มีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบจึงดูโปร่ง อ่านง่าย และไม่สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งานนั่นเอง
5. สร้าง Dynamic Rich Menu (ริชเมนูหลายหน้า)
เทคนิคสุดท้ายนี้การันตีได้เลยว่าจะยกระดับความเป็นมืออาชีพให้กับ Rich Menu ของแบรนด์คุณ!
การสร้าง Rich Menu แบบ Dynamic หรือ Rich Menu หลายหน้าผ่าน แพลตฟอร์มการตลาด MAAC จะช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอข้อมูลที่หลากหลายได้ในพื้นที่จำกัด โดยลูกค้าสามารถเลื่อนเมนูเพื่อดูหน้าถัดไป ซึ่งจะช่วยให้ริชเมนูของคุณแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งและมีลูกเล่นมากขึ้นกว่าเดิม
_____________________________________________________________________________________________
ยกระดับการสร้าง Rich Menu ด้วยโซลูชันการตลาด MAAC
Rich Menu ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมนูนำทางที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น แต่แบรนด์ยังสามารถยกระดับประสิทธิภาพได้มากกว่านั้นด้วยเครื่องมือการตลาด MAAC จาก Crescendo Lab เพื่อให้ริชเมนูทำงานได้เต็มศักยภาพ
สร้าง Rich Menu ผ่าน LINE OA vs MAAC ต่างกันอย่างไร?
ตอนนี้คุณอาจกำลังสงสัยว่า ‘…แล้ว Rich Menu ที่สร้างใน LINE Official Account Manager ต่างจาก Rich Menu ที่สร้างผ่าน MAAC ยังไง?’
ความแตกต่างอย่างชัดเจนที่สุดก็คือ Rich Menu แบบดั้งเดิมของ LINE ไม่รองรับเมนูหลายหน้า (Dynamic Rich Menu) และยังขาดอีกหลายฟังก์ชันที่จะช่วยให้แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าแม่นยำขึ้น เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรมการคลิก หรือ การปรับแต่ง Rich Menu เฉพาะบุคคล (Personalized Rich Menu) ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้ล้วนเป็นฟังก์ชันพิเศษที่มีเฉพาะในโซลูชัน MAAC จาก Crescendo Lab เท่านั้น
ความพิเศษของ Rich Menu ที่สร้างโดยแพลตฟอร์มการตลาด MAAC ที่เรามองว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับหลาย ๆ แบรนด์ก็คือ Dynamic Rich Menu เพื่อแสดงริชเมนูหลายหน้า และการแสดง Rich Menu เฉพาะบุคคล (Personalized Rich Menu) นั่นหมายความว่า ลูกค้าแต่ละรายจะเห็นริชเมนูไม่เหมือนกัน โดยระบบจะเลือกเมนูที่ตรงกลุ่มเป้าหมายจากแท็กที่ถูกติดโดยอัตโนมัติจากข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าแบบรายบุคคล ตัวอย่างเช่น จากภาพด้านบน คุณจะเห็นว่าผู้ใช้งานที่อยู่กรุงเทพฯ จะเห็น Rich Menu ที่ต่างจากผู้ใช้งานที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
ดังนั้น ยิ่งแบรนด์นำเสนอข้อมูลที่ตรงความสนใจลูกค้าได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
วิธีสร้าง Dynamic Rich Menu ด้วยเครื่องมือการตลาด MAAC
การสร้าง Rich Menu หลายหน้าด้วยแพลตฟอร์ม MAAC จาก Crescendo Lab ไม่ยากอย่างที่คิด แถมไม่ต้องอาศัยสกิลการเขียนโค้ดใด ๆ ทั้งสิ้น แบรนด์ที่สามารถทำตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
หลังจากที่แบรนด์คุณติดตั้งระบบ MAAC ของเราเรียบร้อยแล้ว ก่อนอื่นคุณต้องตั้งประเภทเมนูหน้าแรกให้เป็น "การกำหนดเบื้องต้น" (หากมีแพ็กเกจที่ผูกไว้ ก็ตั้งค่าให้เป็น "ผูกไว้แล้ว") ส่วนประเภทเมนูในหน้าที่ 2, 3, 4 เป็นต้น จะต้องตั้งค่าเป็น "เปลี่ยนหน้า"
- ตั้งค่าริชเมนูหน้าที่ 1 ริชเมนูหน้าที่ 2 เสร็จแล้ว ให้บันทึกเป็นฉบับร่าง
- กลับไปในเมนูหน้าที่ 1 เพื่อแก้ไขโซนโต้ตอบที่คลิกสำหรับเปลี่ยนหน้า และเลือกประเภทให้เป็น “เปลี่ยนริชเมนู” จากนั้นก็เลือกเมนูที่ต้องการเปลี่ยนในกล่องตัวเลือกได้เลย
- คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้ “ข้อความตอบกลับ” ปรากฏขึ้นหรือไม่บน LINE เมื่อผู้ใช้คลิกเพื่อเปลี่ยนหน้า
- หากต้องการเปลี่ยนจากหน้าที่ 2 หรือ 3 กลับไปยังหน้าแรก ก็ต้องเลือกประเภทให้เป็น “เปลี่ยนริชเมนู” ในโซนโต้ตอบที่กำหนด จากนั้นก็เลือกเมนูหน้าที่ 1 ของคุณในกล่องตัวเลือกได้เลย
รวมไอเดีย Rich Menu สวย ๆ ดึงดูดลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น
Rich Menu ที่ดีควรดึงดูดสายตาผู้ใช้งานตั้งแต่แรกเห็น พร้อมกับนำทางลูกค้าไปยังข้อมูลที่ต้องการอย่างสะดวกและรวดเร็วทันใจ
เพื่อช่วยให้คุณออกแบบริชเมนูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราจึงขอแชร์ไอเดีย Rich Menu สวย ๆ ที่สร้างจากแพลตฟอร์มการตลาด MAAC ซึ่งตัวอย่างเหล่านี้ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
ใช้ Rich Menu นำทางลูกค้าไปยัง E-commerce ของแบรนด์
PDM Brand แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ได้ออกแบบ Rich Menu อย่างเรียบง่ายและสบายตา โดยเลือกสีโทนอุ่นที่สะท้อนถึงบรรยากาศความอบอุ่นภายในบ้าน ซึ่งไม่เพียงช่วยสร้าง Branding ที่สอดคล้องกับแบรนด์ได้อย่างลงตัว
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ Rich Menu นี้ก็คือ การสร้าง Rich Menu แบบหลายหน้าในรูปแบบของ mini website พร้อม Call-to-Action ที่ชัดเจน อย่าง “Shop PDM Online Store” เพื่อพาลูกค้าเข้าสู่เมนูหน้าถัดไป ซึ่งแสดงช่องทาง E-commerce ทั้งหมดของแบรนด์
เปลี่ยน Rich Menu ตามแคมเปญเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม
IMAX Powertools ธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายตั้งแต่เครื่องสำอางไปจนถึงเสื้อผ้า ได้ออกแบบ Rich Menu ให้ปรับเปลี่ยนตามแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ของแบรนด์อย่างยืดหยุ่น
แบรนด์ได้เลือกใช้สีแดงสดและสีทองเพื่อดึงดูดความสนใจสำหรับแคมเปญลุ้นทอง และยังเลือกใช้เทมเพลตที่ให้พื้นที่ด้านบนเด่น เพื่อเน้นข้อมูลสำคัญ เมื่อผู้ใช้คลิกที่ปุ่ม “กติกา” ก็สามารถเข้าถึงรายละเอียดการรับสิทธิ์ได้ทันที ช่วยให้ลูกค้าเข้าร่วมแคมเปญได้อย่างสะดวกง่ายดาย
ตั้งค่า Rich Menu ให้แสดงตามประเภทลูกค้า มอบประสบการณ์ที่ราบรื่น
อีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจคือการตั้งค่า Dynamic Rich Menu ให้แสดงผลต่างกันระหว่างสมาชิกและผู้ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก เห็นได้จากตัวอย่างจาก Atmo Decor แบรนด์สินค้าตกแต่งบ้านพรีเมียม ทางแบรนด์ใช้ MAAC ในการสร้าง Rich Menu ที่เปลี่ยนตามสถานะของลูกค้า ทำให้เมนูทำงานเหมือน mini website บน LINE OA ช่วยให้ลูกค้าหาข้อมูลที่ต้องการได้สะดวก
นอกจากนี้ แบรนด์ยังออกแบบเมนูได้หรูหราด้วยการใช้สีขาวตัดกับทอง เพื่อสื่อถึงความพรีเมียมของแบรนด์ได้อย่างลงตัว
เพิ่มความสะดวกในการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
Living Style แบรนด์ของตกแต่งบ้านระดับพรีเมียม ไม่เพียงเลือกใช้โทนสีใน Rich Menu ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการออกแบบเมนูหลายหน้า เพื่อมอบประสบการณ์การบริการลูกค้าที่ราบรื่น
ผู้ใช้สามารถติดต่อแบรนด์ผ่านโทรศัพท์ได้ง่าย ๆ เพียงกดปุ่ม “Call Us” และเมื่อลูกค้าคลิกที่ “Exclusive Home Styling Service” ริชเมนูก็จะสลับไปยังหน้าถัดไป ซึ่งมีเมนูสำหรับดูรีวิวสินค้า คำถามที่พบบ่อย และปุ่ม Call สำหรับโทรติดต่อแบรนด์อย่างง่ายดาย
_____________________________________________________________________________________________
ตาคุณแล้ว!
หวังว่าคู่มือฉบับนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ LINE Rich Menu ได้อย่างครบถ้วน และเห็นถึงศักยภาพของฟีเจอร์นี้ที่ซ่อนอยู่ หากต้องการยกระดับการใช้งาน Rich Menu ให้ทรงพลังยิ่งขึ้น ลองใช้โซลูชันการตลาดอัตโนมัติอย่าง MAAC ซึ่งจะช่วยให้คุณก้าวข้ามข้อจำกัดของ Rich Menu แบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Crescendo Lab บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือการตลาดผ่าน LINE จากไต้หวัน ได้รับการรับรองจาก LINE Gold Tech Partner และได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 600 แบรนด์ทั่วโลก
สนใจปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dynamic Rich Menu ปรึกษาเราฟรี!