วิธีสร้าง LINE Rich Menu พร้อม 7 กลยุทธ์เพิ่มยอดขายให้พุ่งทะยาน
LINE Marketing • 3 ม.ค. 2024, 16:55:27 • Written by: Ainee S.
ติดตามความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ Digital Marketing จาก Crescendo Lab
- Rich Menu คืออะไร?
- โครงสร้างและเทมเพลตของ Rich Menu
- วิธีสร้าง Rich Menu ฉบับมือใหม่
- ทำไมแบรนด์ต้องใช้ Rich Menu?
- เทคนิคสร้าง Rich Menu ให้ยอดขายพุ่ง
- ตัวอย่าง Rich Menu ที่ดีเป็นอย่างไร?
- เคล็ดลับทิ้งท้าย
เมื่อพูดถึง LINE OA ฟีเจอร์เด็ดที่เหล่าบรรดาร้านค้าออนไลน์มองข้ามไปไม่ได้คงจะเป็น LINE Rich Menu ฟีเจอร์นี้สังเกตเห็นได้ชัดสะดุดตา เพราะหลังจากที่คุณเพิ่มเพื่อนร้านค้าทาง LINE OA เสร็จแล้ว ริชเมนูจะปรากฏให้เห็นตรงแถบด้านล่างของช่องแชทกับร้านค้า แต่ละเมนูที่คุณกดจะพาคุณไปยังลิ้งก์ หรือฟังก์ชันอื่นที่ร้านค้ากำหนดไว้
บทความนี้ Crescendo Lab จะแนะนำให้คุณได้รู้จัก Rich Menu ว่าคืออะไร? สร้างอย่างไร? พร้อมบอกเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยเพิ่มให้ยอดขายแบรนด์คุณปัง!
Rich menu คืออะไร?
LINE Rich Menu เป็นฟังก์ชันสำคัญบน LINE Official Account ที่อยู่ตรงแถบด้านล่างของแชทสนทนาใน LINE OA ของแบรนด์ ปกติแล้วร้านค้ามักตั้งค่าเมนูที่ถูกใช้ประจำบน rich menu เช่น คำถามที่พบบ่อย หรือต้องการให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น แบรนด์ยังสามารถทำการตลาดและสร้าง customer journey ที่ดีผ่าน Rich Menu ได้ไปในตัว
เทมเพลตของ line rich menu มีให้เลือกมากมาย ทั้งนี้แบรนด์สามารถคัดเลือกคำสั่งที่ต้องการให้ลูกค้าคลิกง่าย ๆ ไว้ใน rich menu ได้สูงสุดถึง 6 เมนู อย่างที่รู้กันว่า LINE OA เป็นการสนทนาระหว่างแบรนด์กับลูกค้าแบบ 1:1 ดังนั้นแบรนด์จึงสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้รวดเร็ว ช่วยสร้างความประทับใจแรกได้ดีมากเลยทีเดียว
โครงสร้างและเทมเพลตของ Rich Menu
หลังจากที่ได้รู้จักข้อดีของ LINE Rich Menu กันไปแล้ว เรามาทำความเข้าใจโครงสร้างของ LINE Rich Menu และรู้จัก template ว่ามีแบบไหนให้แบรนด์เลือกบ้างให้ร้านค้าเลือกใช้งานบ้าง
โครงสร้าง Rich Menu มีอะไรบ้าง?
- ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Rich Menu Image, Tappable Areas, และ Chat Room Menu
- Rich menu image: ไฟล์ภาพที่ใช้แสดง Action ของริชเมนู เพื่อนำทางสิ่งที่ลูกค้าต้องการหา คุณสามารถออกแบบภาพเองด้วยเครื่องมือที่ถัดได้อย่างอิสระ แต่อย่าลืมว่าให้เซฟเป็นไฟล์ JPEG หรือ PNG เท่านั้นนะคะ
- Tappable areas: ส่วนนี้เป็นบริเวณที่แบ่งเมนูแต่ละช่อง ให้คุณคัดเลือก Action ที่ต้องการสำหรับแต่ละเมนู เช่น ลิงก์ URL, คูปอง, ฯลฯ
- Chat bar: เมนูมีไว้เปิดและปิด Rich Menu คุณสามารถปรับข้อความในส่วนนี้ได้
Rich Menu มีเทมเพลตแบบไหนบ้าง?
Rich Menu มีเทมเพลตให้แบรนด์เลือกใช้มากถึง 12 รูปแบบ แบ่งได้ดังนี้
- แบบใหญ่
เทมเพลตใหญ่มีทั้งหมด 7 ชนิด แบรนด์สามารถเลือกสร้างเทมเพลตได้ตามจำนวน Action ที่ต้องการใช้งานตั้งแต่ 1-6 เมนู
จุดเด่น Rich Menu แบบใหญ่: ผู้ใช้สามารถมองเห็นเมนูและรูปภาพได้ชัดเจน เพราะมีพื้นที่แสดงบนหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้เลือกรายการที่ต้องการได้ง่าย ในขณะเดียวกันแบรนด์ก็สามารถนำเสนอสินค้าหรือบริการได้หลากหลายมากขึ้น เทมเพลตแบบใหญ่จึงเหมาะกับแบรนด์ที่มีข้อมูล หรือกิจกรรมโปรโมชั่นที่ต้องการโปรโมทที่หลากหลาย
- แบบเล็ก
แบรนด์ที่ใช้เทมเพลตแบบเล็กจะสามารถเลือกใช้ได้จากทั้งหมด 5 ชนิด ส่วน Action จะมีให้เลือกตั้งแต่ 1-3 คำสั่ง
จุดเด่น Rich Menu แบบเล็ก: เนื่องจากเทมเพลตแบบเล็กมีพื้นที่บนหน้าจอค่อนข้างจำกัด จึงทำให้แบรนด์สามารถรักษาความสวยงามของ Rich Menu ได้ เทมเพลตแบบเล็กจึงเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการใช้งานเฉพาะเมนูสำคัญ เพื่อนำเสนอเฉพาะเมนูที่ใช้งานบ่อย
วิธีสร้าง Rich Menu ฉบับมือใหม่
- สำหรับขั้นตอนแรกก่อนที่จะเริ่มสร้าง Rich Menu คุณต้อง login เข้าสู่ระบบ LINE Official Account ของคุณด้วยลิงก์นี้ https://manager.line.biz/account/
- จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม ‘สร้างใหม่’
- เมื่อเข้ามาที่สร้างริชเมนูแล้ว ให้กรอกรายละเอียดเบื้องต้น เช่น ชื่อของ rich menu และ สถานะความพร้อมใช้งาน
- กำหนดเวลาที่ให้ rich menu แสดง (หากไม่กำหนดช่วงเวลา rich menu จะไม่แสดงผล)
- จากนั้นให้ตั้งค่าการแสดงข้อความบนเมนูบาร์ ซึ่งจะปรากฏด้านล่างของห้องแชท
- ถัดมาตั้งค่าการแสดงเมนูแบบเริ่มต้น คุณสามารถเลือก ‘แสดง’ เพื่อให้ rich menu แสดงขึ้นโดยอัตโนมัติ หรื่อ ‘ซ่อน’ เพื่อให้พับลง
- เลือก Template rich menu ที่คุณต้องการ
- อัพโหลดรูปภาพพื้นหลัง หรือ สร้างรูป
9. จากนั้นให้เลือกแอ๊กชันที่คุณต้องการสำหรับเมนูแต่ละช่อง (สูงสุด 6 ปุ่ม) ตัวเลือกได้แก่
- URL Link: ลิงก์
- Coupon: คูปอง
- Text: ข้อความ
- Reward Card: บัตรสะสมแต้ม
10. ขั้นตอนสุดท้าย เพียงแค่ กดบันทึก คุณก็จะมี rich menu พร้อมใช้งาน
ทำไมแบรนด์ต้องใช้ LINE Rich Menu?
สังเกตได้ว่าแทบจะทุกร้านค้าใช้งาน Rich Menu ทีนี้เรามาดูกันว่าฟีเจอร์สุดฮอตนี้มีข้อดีอะไร? ทำไมแบรนด์คุณไม่ควรพลาด?
1. ลูกค้าติดต่อแบรนด์ได้สะดวก รวดเร็ว
อย่างที่เกริ่นไปว่า Rich Menu คือเมนูลัดที่แบรนด์ออกแบบขึ้นมาเอง เพื่อให้ลูกค้าคลิกสิ่งที่มักถูกสอบถามเข้ามาบ่อย รวมไปถึงนำพาลูกค้าไปยังเว็บไซต์แบรนด์เพื่อปิดการขาย ดังนั้นแบรนด์จึงใช้ฟีเจอร์นี้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญลูกค้าไม่ต้องคอยรอแอดมินมาตอบให้อารมณ์เสีย
2. เพิ่มประสิทธิภาพการขายของบน LINE OA
แน่นอนว่าการสร้างริชเมนูให้ร้านค้าคุณจะช่วยเพิ่มโอกาสนำพาลูกค้าไปยังช่องทางปิดการขายได้ง่ายขึ้น เผลอ ๆ ลูกค้าบางรายอาจกดสั่งซื้อสินค้าที่หน้าเว็บคุณจากการคลิกริชเมนู เรียกได้ว่าวิน ๆ ทั้งสองฝ่าย เพราะไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตอบแชทไปมา
นอกจากนี้ร้านค้ายังสามารถใช้ประโยชน์จาก Rich Menu โดยการติดตามการมีส่วนร่วมของลูกค้าจากการคลิกแต่ละเมนูผ่านทาง "แชทแท็ก" แบบ Real-time ซึ่งเป็นฟังก์ชันเสริมของ MAAC จาก Crescendo Lab ทำให้แบรนด์คุณทราบว่าลูกค้าแต่ละรายมีส่วนร่วมในการคลิก Richmenu ใดบ้าง ทำให้การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ง่ายขึ้น และเพิ่มประสิทธิการขายได้อย่างมาก
3. ลูกค้าหาสิ่งที่ต้องการได้ง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้ว
Rich Menu ทำให้ลูกค้าเจอสิ่งที่กำลังมองหาได้อย่างง่ายดาย นั่นเป็นเพราะว่าลูกค้าเพียงแค่จิ้มที่เมนูที่ร้านค้าออกแบบไว้ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้แล้ว ฟีเจอร์นี้ยังช่วยสร้างความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์คุณ ดังนั้น บรรดาร้านค้าออนไลน์ต้องทำการบ้านให้ดีว่าควรใส่ตัวเลือกใดบน Rich Menu บ้าง เช่น หน้าเว็บไซต์ของร้านค้า ช่องทางโซเชียลมีเดีย พิกัดหน้าร้าน คำถามที่พบบ่อย ฯลฯ
4. สร้างแบรนดิ้งให้ลูกค้าจดจำ
ร้านค้าที่ใช้ Rich Menu เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น (Brand Awareness) เนื่องจากฟีเจอร์นี้จะปรากฏให้ผู้ติดตามเห็นตรงหน้าแชทแบบ 1:1 ตั้งแต่ครั้งแรกที่เพิ่มเพื่อนใน LINE OA โดยทั่วไปแล้ว แบรนด์ใหญ่มักจะออกแบบ Rich Menu ให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง โดยใช้สีประจำแบรนด์ หรือ เลือกใช้ฟอนต์ตัวหนังสือแบบเฉพาะ
5. ประหยัดต้นทุนการตอบ LINE
จากข้อดีมากมายที่กล่าวไว้ข้างต้น จะเห็นได้ว่า LINE Rich Menu เป็นเครื่องทุ่นแรงให้ร้านค้าแทบไม่ต้องลงทุนจ้างแอดมินมาคอยสแตนด์บายตอบแชทลูกค้าเลย การทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation) นี้ยังประหยัดเวลาในการตอบคำถามจำนวนมากในเรื่องซ้ำ ๆ ที่สำคัญ Rich Menu ยังช่วยแบรนด์ลดต้นทุนในการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบได้เช่นกัน
6. สร้างริชเมนูแบบไม่ซ้ำใคร
Rich menu เป็นฟังก์ชันที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้คุณสามารถปรับแต่งและปรับเปลี่ยนตัวเลือกเมนูได้ทุกเมื่อ เพื่อให้ตรงกับความต้องการลูกค้า แต่ถ้าหากว่าคุณอยากใช้ประโยชน์สูงสุดจากริชเมนู เราแนะนำให้ใช้เครื่องมือ MAAC จาก Crescendo Lab โดยทางแบรนด์สามารถติดตามการมีส่วนร่วมของลูกค้าจากการคลิกแต่ละเมนูได้อย่างง่ายดายผ่านทาง "แชทแท็ก" แบบ Real-Time ซึ่งจะทำให้แบรนด์ของคุณทราบว่าลูกค้าแต่ละรายมีส่วนร่วมในการคลิก Rich menu ใดบ้าง ทำให้การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือ การรีมาร์เก็ตติ้ง
เทคนิคสร้าง Rich Menu ให้ยอดขายพุ่ง
ยิ่งแบรนด์เข้าใจฟีเจอร์และการใช้งานของ LINE Rich Menu มากเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ยอดขายพุ่งขึ้นมากขึ้นเท่านั้น มาดูกันว่าเคล็ดลับการใช้ริชเมนูมีอะไรบ้าง
1. เลือกโทนสีที่ใช่
การเลือกโทนสีของ Rich Menu มีผลต่อการรับรู้และการจดจำแบรนด์ (Brand Awareness) เป็นอย่างมาก ดังนั้น เราแนะนำให้เลือกสีของริชเมนูให้สอดคล้องกับสีประจำแบรนด์คุณ เพื่อสร้างการรับรู้ที่สม่ำเสมอในทุกช่องทางการขาย
อีกหนึ่งเทคนิคคือ การปรับโทนสีให้ชัดเจน อ่านง่าย หากสีริชเมนูเข้ม หรือสว่างเกินไป อาจทำให้ข้อความไม่ชัด สร้างประสบการณ์ไม่ดีต่อลูกค้าได้ค่ะ
2. เลือกเทมเพลตที่เหมาะสม
แม้ว่าเทมเพลตของ Rich Menu จะมีให้เลือกสูงสุดถึง 6 ช่อง นั่นไม่ได้แปลว่าจะดีที่สุดเสมอไป คุณควรเลือกเทมเพลตที่เหมาะสมกับสิ่งที่คุณต้องการสื่อสารกับลูกค้า สิ่งที่สำคัญคือการเลือกใช้เทมเพลตที่มีพื้นที่พอดีกับข้อมูลที่คุณอยากนำเสนอแก่ผู้ใช้ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป นอกจากนี้คุณควรเลือกเทมเพลตที่มีการจัดวางและนำทางให้ลูกค้าใช้งานง่าย เพื่อมอบ customer journey ที่ราบรื่น
3. เห็นข้อความชัด เห็นปุ๊บ เข้าใจปั๊บ
ข้อความที่ปรากฏบน LINE Rich Menu ควรใช้ฟ้อนต์ตัวหนังสือที่อ่านง่าย เห็นปุ๊บ เข้าใจปั๊บ รวมไปถึงเลือกสีตัวหนังสือให้เหมาะสมกับสีพื้นหลังในขณะที่ยังสอดคล้องกับแบรนด์คุณ อีกข้อควรระวังของตัวหนังสือบนริชเมนูคือ ขนาดและอัตราส่วน ข้อความบน Rich Menu ไม่ควรใหญ่จนตกขอบพื้นที่ของริชเมนู หรือเล็กจนมองเห็นไม่ชัด อีกหนึ่งทริคคือ คุณสามารถใช้ตัวหนังสือพิมพ์ใหญ่ หรือ แบบทึบ เพื่อช่วยเน้นข้อความที่สำคัญให้สะดุดตาผู้ใช้ได้!
4. เน้นโปรโมชัน กระตุ้นยอดขาย
โปรโมชันเป็นกลยุทธ์เด็ดที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้แบรนด์คุณปัง ดังนั้นการใช้ Rich Menu ในการสื่อสารโปรโมชันของคุณให้ส่งตรงถึงลูกค้าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ลองปรับ Template ของริชเมนูให้ลูกค้าเห็นโปรโมชันชัด ๆ ยกตัวอย่างเช่น ออกแบบรูปให้มีคำว่า Special Discount หรือ Sale ตัวใหญ่ ๆ ในตำแหน่งที่สะดุดตา ที่สำคัญอย่าลืมใส่ลิงก์ที่นำลูกค้าไปยังหน้าสินค้าเพื่อสั่งซื้อและชำระเงินให้สะดวกรวดเร็ว
5. คัดแต่เมนูที่ตรงตามพฤติกรรมลูกค้า
ให้คุณคัดเลือกเฉพาะเมนูที่ตอบโจทย์ลูกค้าโดยการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการคลิก LINE Rich Menu ต่าง ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาของเมนูให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าสนใจมากที่สุด เคล็ดลับนี้จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากคุณใช้ร่วมกับฟีเจอร์ “แชทแท็ก” ของ MAAC จาก Crescendo Lab เพื่อติดตามการมีส่วนร่วมของลูกค้าจากการคลิกแต่ละเมนูแบบ Real-Time
6. เพิ่มลูกเล่นให้ Rich Menu ทำงานกับฟีเจอร์อื่น
นอกจากข้อมูลทั่วไปที่มักพบบ่อยได้ใน Rich Menu แล้ว แบรนด์ควรเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของริชเมนูด้วยฟีเจอร์อื่น เช่น เชื่อมต่อกับแชทบอท เพื่อส่งข้อความพิเศษให้ลูกค้าเรียกใช้ได้ง่าย ๆ หรือ ใช้งานร่วมกับ Beacon เพื่อให้บริการและเมนูปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้อยู่ในบริเวณที่แบรนด์ติดตั้งสัญญาณ Beacon การใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ให้แก่ลูกค้าแน่นอน
7. คอยอัปเดต LINE Rich Menu
การปรับแต่ง LINE Rich Menu ให้สอดคล้องกับความต้องการลูกค้า จะทำให้แบรนด์คุณโดดเด่นและน่าสนใจ เมื่อมีการอัปเดตข้อมูลไม่ว่าจะเป็น โปรโมชัน ที่ตั้งหน้าร้าน ช่องทางการขายเพิ่มเติม แบรนด์ต้องหมั่นตรวจสอบว่าริชเมนูมีเนื้อหาที่เป็นปัจจุบันที่สุด
เทคนิคนี้ยังเหมาะกับการเปลี่ยนให้เข้ากับเทศกาลสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น วันสงกรานต์ วันฮาโลวีน หรือ เทศกาลสิ้นปีอย่างคริสต์มาส ปีใหม่ ฯลฯ เมื่อลูกค้าประจำเข้ามาเห็นการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าแบรนด์มีความใส่ใจ และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดีมากเลยทีเดียว
ตัวอย่าง Rich Menu ที่ดีเป็นอย่างไร?
Texas Chicken
นี่คือตัวอย่าง LINE Rich Menu จาก LINE Official Account ของ Texas Chicken Thailand ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ไก่ทอดเก่าแก่ชื่อดัง ปัจจุบันมีมากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศไทย
ตัวอย่างริชเมนูนี้เป็นแคมเปญสุดพิเศษที่ SO IDEA บริษัท Digital Agency จับมือกับทาง Crescendo Lab โดยใช้แพลตฟอร์ม MAAC เพื่อเพิ่มยอดขายให้ลูกค้าสั่งไก่ทอดผ่าน LINE OA ด้วยระบบการติดตามของ Crescendo Lab ทำให้พบว่ามีคนร่วมสนุกกิจกรรมมากกว่า 10,000 คน และแลกใช้คูปองกว่า 20% ซึ่งถือเป็นผลตอบรับที่ดีเยี่ยมและเกินคาดหมาย (อ่านเพิ่มเติม)
มาดูกันว่าริชเมนูที่ Texas Chicken ใช้มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง?
- Template ที่ใช้ — แบบใหญ่ ชนิดที่ 3 ซึ่งประกอบไปด้วย 5 เมนู
- เกมส์ลุ้นรางวัล — เป็นกิจกรรมพิเศษที่จะให้ลูกค้าหมุนวงล้อเพื่อรับโปรโมชันพิเศษกับทางร้าน
- เมนูอาหาร — เมื่อกดแล้วลูกค้าสามารถดูเมนูและราคาอาหารของทางร้าน
- โปรโมชัน — เมนูนี้รวบรวมโปรโมชันล่าสุด ลูกค้าสามารถคลิกเข้าไปเช็คได้อย่างสะดวก ง่ายดาย
- ค้นหาสาขา หรือสั่งอาหาร — เพิ่มความสะดวกในการค้นหาร้าน Texas Chicken ทั่วประเทศ เมื่อลูกค้าคลิกเมนูนี้จะสามารถทราบที่ตั้งหน้าร้าน หรือสาขาที่อยู่ใกล้ลูกค้าที่สุด
- ภาพพื้นหลัง — สังเกตได้ว่าสีของภาพพื้นหลังส่วนใหญ่ใช้สีส้มและสีดำ ซึ่งสะท้อนความเป็นแบรนด์ Texas Chicken อย่างชัดเจน
- ข้อความบนริชเมนู — มีการใช้ฟ้อนท์ตัวหนังสือที่มีมิติ และเลือกสีฟ้อนท์ที่โดดเด่นและเหมาะสมกับสีพื้นหลัง Rich Menu องค์ประกอบรวมของข้อความบนริชเมนูนี้น่าดึงดูดให้ให้ลูกค้าคลิกเข้าไปแต่ละเมนู
เคล็ดลับทิ้งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ บทความนี้ได้ทำให้คุณได้รู้จัก LINE Rich Menu มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ข้อดีของการใช้ริชเมนู โครงสร้างเป็นอย่างไร มีขั้นตอนและวิธีสร้างอย่างไรบ้าง รวมไปถึงเคล็ดลับดี ๆ พร้อมกับตัวอย่าง Rich Menu จากแบรนด์ดัง หลังจากนี้คุณก็สามารถนำเกร็ดความรู้ดี ๆ ไปปรับใช้ให้แบรนด์คุณเพิ่มยอดขายให้ปังจากการออกแบบ Rich Menu ได้แน่นนอน
สุดท้ายนี้ แบรนด์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ LINE Rich Menu ควบคู่กับการใช้ LINE CRM อย่าง MAAC จาก Crescendo Lab เพื่อเก็บข้อมูลสำคัญอย่าง แหล่งที่มาของการเพิ่มเพื่อนใน LINE OA แบรนด์คุณ การคลิกริชเมนู รวมถึงบันทึกข้อมูลสนทนาเพื่อทำการตลาดแบบอัตโนมัติบน LINE OA ในแพลตฟอร์มเดียวอย่างครบวงจร
ข้อมูลอ้างอิง: LINE Developers