คู่มือ LINE Ads Platform วิธีปั้นธุรกิจให้รุ่งด้วยโฆษณา LINE Ads
LINE Marketing • 6 ธ.ค. 2024, 16:16:07 • Written by: Ainee S.
อย่าลืมกดติดตาม Crescendo Lab สำหรับสาระน่ารู้ในสาย MarTech!
มารู้จัก LINE Ads Platform (LAP) ให้เข้าใจแบบกระจ่างภายใน 5 นาทีด้วยบล็อกนี้!
Crescendo lab ได้รวบรวมทุกเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนสร้างโฆษณาใน LINE พร้อมแจกเทคนิคโปรโมทธุรกิจของคุณให้มีประสิทธิภาพ รับรองว่าหลังอ่านบล็อกนี้จบ คุณจะสามารถยิง LINE Ads ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ
LINE Ads Platform (LAP) คืออะไร?
LAP ย่อมาจาก LINE Ads Platform หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า LINE Ads คือ แพลตฟอร์มโฆษณาของ LINE ที่ช่วยให้ร้านค้า ธุรกิจ หรือนักการตลาดสามารถสร้างโฆษณาเพื่อโปรโมทสินค้า บริการ หรือทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นบน LINE Ecosystem
LINE Ads จึงมีรูปแบบการทำงานคล้ายกับการยิง Ads ในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Google ที่แบรนด์สามารถกรองกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างละเอียด แต่ LINE Ads เป็นแพลตฟอร์มโฆษณาที่น่าสนใจตรงที่ LINE เป็นช่องทางแชทในชีวิตประจำวันของชาวไทยแทบทุกคน ทำให้ไลน์แอดช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้ใช้งานมากกว่า 56 ล้านทั่วประเทศ
_____________________________________________________________________________________________
LINE Ads มีกี่รูปแบบ แสดงตำแหน่งไหนบ้าง
ตัวอย่างการแสดง LINE Ads จาก LINE for Business
คุณอาจเคยสังเกตเห็นว่าโฆษณาไลน์แอด มีหลายรูปแบบและแสดงให้เห็นในตำแหน่งต่าง ๆ ทั่วแอปพลิเคชัน LINE เราจะพาคุณไปรู้ว่า โฆษณาใน LINE LAP ทั้ง 5 รูปแบบมีอะไรและแสดงในตำแหน่งไหนบ้าง
รูปแบบที่ 1: LINE Ads แบบรูป
โฆษณา LINE LAP ในรูปแบบของ ‘รูป’ นั้นมีโอกาสแสดงให้เห็นในทุกตำแหน่งบน LINE ไม่ว่าจะเป็น Home Tab, Chat List, LINE VOOM, LINE Today, LINE Wallet, LINE Openchat โดยรูปที่ใช้สำหรับสร้างโฆษณาจะต้องมีขนาด 1080x1080 pixel หรือ ขนาด 1200x628 pixel ประเภทของไฟล์ต้องเป็น JPG หรือ PNG ขนาดไฟล์ไม่เกิน 10 MB
รูปแบบที่ 2: LINE Ads แบบภาพสไลด์ (Carousel)
แบรนด์สามารถสร้าง LINE Ads แบบภาพสไลด์ หรือ Carousel ได้สูงสุด 10 รูป ไลน์แอดแบบภาพสไลด์นี้จะแสดงใน Home Tab, LINE VOOM, และ LINE Today โดยภาพจะต้องใช้ภาพขนาด 1080x1080 pixel ในรูปแบบไฟล์ JPG หรือ PNG ขนาดไม่เกิน 10 MB
รูปแบบที่ 3: LINE Ads แบบวิดิโอ
ไลน์แอดแบบวิดิโอจะแสดงใน 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย Home Tab, LINE VOOM, LINE Today และ LINE Wallet โดยสัดส่วนของวิดิโอจะต้องมีขนาด 16:9, 1:1, หรือ 9:16 ประเภทของไฟล์ต้องเป็น MP4 หรือ MOV ขนาดวิดิโอไม่เกิน 1 GB และมีความยาวไม่เกิน 10 นาที
รูปแบบที่ 4: LINE Ads แบบรูปขนาดเล็ก
LINE LAP ที่เป็นรูปขนาดเล็กจะแสดงให้ผู้ใช้เห็นใน Home Tab, Chat List, และ LINE OpenChat ขนาดของรูปขนาดเล็กจะต้องมีขนาด 600x400 pixel ขนาด 3:2 และใช้ไฟล์รูป JPG หรือ PNG ขนาดไม่เกิน 10 MB
รูปแบบที่ 5: LINE Ads แบบภาพเคลื่อนไหว
รูปแบบไลน์แอดแบบภาพเคลื่อนไหวจะแสดงที่ด้านบนสุดของหน้าแชท (Chat List) มีความตั้งแต่ 1-4 วินาที รองรับ 5-20 เฟรม และแสดงโฆษณาให้ผู้ใช้งาน LINE เห็นวน 1-4 ลูป ภาพที่เลือกจะต้องมีขนาด 600x400 pixel ขนาด 3:2 ใช้ไฟล์ประเภท PNG ไม่เกินด 5 MB
_____________________________________________________________________________________________
5 ประโยชน์ของ LINE Ads Platform ดีต่อธุรกิจร้านค้าอย่างไร
LINE LAP คือเครื่องมือสำคัญที่มาพร้อมกับประโยชน์มากมาย มาดูกันเลยดีกว่า LINE LAP ดีต่อแบรนด์อย่างไร เพื่อให้คุณเข้าใจว่าทำไมหลายแบรนด์เลือกลงโฆษณาผ่าน LINE Ads
1. LINE Ads สร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ในวงกว้าง
LINE เป็นแอปพลิเคชันแชทที่ครองใจชาวไทย ซึ่งปัจจุบันไลน์มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 56 ล้านคนในประเทศ นั่นหมายความว่าการยิงไลน์แอดจะช่วยโปรมโมทสินค้า บริการ หรือแบรนด์ของคุณให้เข้าถึงสายตาผู้ใช้งานจริง (Active User) จำนวนมหาศาลในแต่ละวัน
LINE LAP จึงช่วยจะกระจายโฆษณาผ่านตำแหน่งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Timeline, Chat List, และ LINE VOOM ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) และการมีส่วนร่วม (Engagement) กับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
2. LINE Ads ทำให้แบรนด์สร้างโฆษณาได้อย่างอิสระตามงบต้องการ
LINE Ads Platform ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาให้ตอบโจทย์ธุรกิจ ร้านค้าทุกขนาด ไม่ว่าแบรนด์ของคุณจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็สามารถเลือกรูปแบบการคำนวณงบประมาณโฆษณาที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของแคมเปญ ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงการจ่ายแบบ Cost Per Click (CPC) หรือ Cost Per View (CPV) เท่านั้น
นอกจากนี้ LINE LAP ยังไม่มีขั้นต่ำสำหรับการโฆษณา ช่วยให้แบรนด์ทุกขนาดสามารถเริ่มต้นใช้งานได้เลย ร้านค้างบน้อยจึงไม่ต้องกังวลไป
3. LINE Ads ยิงโฆษณาแม่นยำ ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
รูปภาพจาก LINE for Business
LINE LAP มาพร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์สุดล้ำที่ช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยอาศัยข้อมูลประชากร (Demographics) เช่น อายุ เพศ และตำแหน่งที่ตั้ง และยังใช้ข้อมูลพฤติกรรมและความสนใจ (Interests & Behaviors) ของผู้ใช้ เช่น ความชอบส่วนตัว หรือกิจกรรมที่ผู้ใช้เคยมีส่วนร่วม เพื่อช่วยให้โฆษณาเข้าถึงผู้ที่มีแนวโน้มจะสนใจในสินค้าและบริการได้อย่างตรงจุด
LINE Ads จึงทำให้แบรนด์สามารถโฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายหลัก (Core Audience) ที่เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าจริงนั่นเอง
4. LINE Ads วิเคราะห์ผลการยิงโฆษณาแบบ real-time
LINE LAP มีแดชบอร์ดที่ช่วยให้แบรนด์ติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้แบบ real-time ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคลิก การเข้าชมเว็บไซต์ การเพิ่มเพื่อนใน LINE Official Account หรือยอดขาย ซึ่งช่วยให้ธุรกิจมองเห็นประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างชัดเจน
การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกนี้ แบรนด์จึงสามารถปรับปรุงแคมเปญได้ทันทีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น การปรับเปลี่ยนข้อความโฆษณา การตั้งค่าเป้าหมายใหม่ หรือการเพิ่มงบประมาณในแคมเปญที่ได้ผลดี ซึ่งทำให้แบรนด์สามารถพัฒนาแนวทางการทำโฆษณาได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม
5. LINE Ads พัฒนาฟีเจอร์ใหม่อย่างต่อเนื่อง
รูปภาพจาก LINE for Business
LINE Ads คือแพลตฟอร์มที่คอยอัปเดตฟีเจอร์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โฆษณาที่ลงไปนั้นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลลัพธ์การโฆษณาที่เห็นผลให้กับธุรกิจ ร้านค้า
ตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์สร้างกลุ่มเป้าหมายจาก "เพื่อนที่บล็อกบัญชี" บน LINE Ads เพื่อลด Block Rate เปลี่ยนใจลูกค้าให้เป็นยอดขาย หรือจะเป็นการเพิ่มตำแหน่งโฆษณามากขึ้น อย่างล่าสุดได้มีการเพิ่มพื้นที่โฆษณาใหม่ใน LINE Album เป็นต้น ความพร้อมในการปรับปรุงและเพิ่มพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ให้เข้าถึงผู้ใช้งานมากขึ้นอยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่หลายแบรนด์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า LINE Ads นั้นคุ้มค่าแก่การลงทุน
_____________________________________________________________________________________________
ลงโฆษณาผ่าน LINE Ads คล้ายแพลตฟอร์มอื่นอย่างไร
เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มโฆษณา หลายท่านอาจนึกถึงสองแพลตฟอร์มโฆษณาเจ้าใหญ่อย่าง Google Ads หรือ Facebook Ads ซึ่งมีรูปแบบการทำงานหลายส่วนที่คล้ายคลึงกัน เช่นเดียวกับ LINE Ads ไปดูกันเลยดีกว่าว่าไลน์แอดจะมีความคล้ายกับสองแพลตฟอร์มที่ว่ามานี้ในด้านใดบ้าง
1. เข้าถึงผู้ใช้งานที่หลากหลาย
LINE LAP มีหลักการทำงานคล้ายกับโฆษณาบน Facebook ตรงที่ทั้งสองแพลตฟอร์มเน้นการเข้าถึงผู้ใช้เชิงรุกผ่านพฤติกรรมและความสนใจ แทนการใช้พฤติกรรมการค้นหาเป็นเกณฑ์เหมือน Google Ads
เมื่อ LAP เข้าถึงผู้ใช้ โฆษณาก็จะถูกส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้โดยตรงเหมือนกับการโฆษณาบน Facebook ที่ระบบจะอ้างอิงข้อมูลความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่มีศักยภาพสูงได้อย่างแม่นยำ
2. เครื่องมือวิเคราะห์สำหรับการทำ Re-marketing
ในขณะที่ Google มี Google Analytics (GA/ GA4) และ Facebook มี Pixel ในส่วนของ LINE เองก็มี LINE Tag ทั้งสามเครื่องมือที่ว่านี้ล้วนมีโค้ดเอาไว้ติดตามผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถกรองกลุ่มเป้าหมายโดยอิงจากการปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าต่อแบรนด์อย่างเฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคที่เข้าไปชมเว็บไซต์แบรนด์ แต่ไม่ได้ซื้อสินค้า ระบบไลน์แอดก็จะทำการรีมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการลงโฆษณาให้เข้าถึงผู้ใช้เพื่อสร้าง conversion ในที่สุด
3. เป้าหมายของการโฆษณา
เป้าหมายหลักของการโฆษณาบน Google คือการนำทางลูกค้าไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์ เช่นเดียวกับ Facebook ที่ต้องการพาผู้ใช้ไปยังแฟนเพจ โพสต์ และเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม LINE เองก็ไม่ต่างกัน เพราะแบรนด์ล้วนต้องการดึงดูดให้ผู้ใช้งานไปที่ LINE OA และหน้าเว็บไซต์ของธุรกิจ
เราจึงสรุปได้ว่า LINE LAP เป็นการโฆษณาในระบบนิเวศของ LINE ที่มีเป้าหมายโฆษณาคล้ายกับการโฆษณาบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่สำคัญการกระตุ้นให้ผู้ใช้เพิ่มเพื่อนบน LINE OA ของแบรนด์คุณยังเป็นอีกหนึ่งวิธีโฆษณาผ่านไลน์ที่ช่วยส่งเสริมกลยุทธ์ LINE Marketing ที่ดีในระยะยาว ดังนั้นหากคุณต้องการยิงแอดผ่านไลน์ให้ลองเริ่มจากการใช้บัญชีทางการไลน์ของคุณให้มีประสิทธิภาพสูงสุดก่อนเลย
4. ดูพฤติกรรมผู้ใช้จาก LINE Ecosystem
แต่ละแพลตฟอร์มล้วนมีระบบนิเทศ (ecosystem) ของตัวเองที่ช่วยกำหนดคุณลักษณะของผู้ใช้ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับข้อมูลผู้ใช้งานใน LINE นั้นจะอิงจากพฤติกรรมการใช้งานในแอปพลิเคชันโดยตรง ตัวอย่างเช่น ในหมวดหมู่ “พฤติกรรม” คุณสามารถดูได้ว่าผู้ใช้รายนั้นติดตาม LINE OA ใดบ้าง หรือติดตามข่าวประเภทไหน
5. อัพโหลดข้อมูลผู้ใช้ลงระบบโฆษณาเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมาย
เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มโฆษณาอื่นๆ คุณยังสามารถอัพโหลดข้อมูล First-party data ของผู้ใช้งานที่คุณมีลงใน LINE LAP เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างกลุ่มเป้าหมายสำหรับการยิงโฆษณา นอกจากนี้ LINE UID ที่ใช้ระบุตัวตนของผู้ใช้งานในระบบยังสามารถนำไปอัพโหลดและนำไปแสดงโฆษณาได้อีกด้วย
_____________________________________________________________________________________________
วิธีเริ่มลงโฆษณาบน LINE Ads Platform ใน 6 ขั้นตอน
แล้วเราก็มาถึงขั้นตอนของการเริ่มยิงไลน์แอดด้วยตัวเอง เราได้รวบรวมมา 6 ขั้นตอนให้คุณทำตามได้ง่าย ๆ ไปดูกันเลยดีกว่าต้องทำอะไรบ้าง
ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียน LINE Business ID
ในขั้นตอนแรกของการใช้ LINE Ads Platform ให้คุณเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE ผ่านหน้าเว็บไซต์ admanager.line.biz
ขั้นตอนที่ 2: สร้างบัญชีผู้ใช้โฆษณา
รูปภาพจาก LINE Ads Manager I Help Center
ขั้นตอนถัดไปคือ การสร้างบัญชีโฆษณาบนเว็บไซต์ admanager.line.biz โดยเริ่มจากเลือกเมนู “สร้างบัญชีผู้ใช้โฆษณาใหม่” จากนั้นกรอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการลงทะเบียน เช่น
รูปภาพจาก LINE Ads Manager I Help Center
- ข้อมูลสำหรับเรียกเก็บเงิน: แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย นิติบุคคล นิติบุคคลต่างประเทศ และธุรกิจส่วนตัว
- รูปแบบใบกำกับภาษีที่ต้องการ
- ข้อมูลผู้ลงโฆษณา: สามารถใส่ชื่อบริษัทหรือแบรนด์สินค้าคุณก็ได้ สำหรับ URL เว็บไซต์ผู้ลงโฆษณา สามารถใส่เป็นเว็บไซต์บริษัทหรือโซเชียลมีเดียที่มี และอย่าใส่ https เสมอ
- หมวดหมู่บัญชีโฆษณา: ต้องเลือกให้ตรงกับสินค้าหรือบริการที่คุณต้องการลงโฆษณาบน LINE Ads
- บัญชี LINE OA ที่ต้องการผูก LINE LAP: โดยกรอก LINE ID ที่มีอยู่แล้วได้ทันที
- ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า: ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีการควบคุม (อาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม เครื่องสำอาง ตัวแทนขายสินค้า) จะต้องอัพโหลดเอกสารจำเป็น เช่น อย. เอกสารตัวแทน ฯ
เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้กดปุ่ม “สร้าง”
ขั้นตอนที่ 3: เลือกวิธีการชำระเงิน
แบรนด์สามารถชำระเงินผ่าน Rabbit LINE Pay (ที่ผูกบัตรเครดิตไว้) หรือใช้บัตรเครดิตอื่นก็ได้เช่นกัน เพียงกรอกรายละเอียดบัตรเครดิต ระบบจะเรียกเก็บเงินชั่วคราว 1 บาทเพื่อยืนยันบัตร ซึ่งจำนวนเงินนี้จะถูกยกเลิกทันทีหลังจากยืนยันสำเร็จ ก่อนเริ่มลงโฆษณา LINE จะตรวจสอบและอนุมัติบัญชีโฆษณา ซึ่งใช้เวลาดำเนินการประมาณ 2 วัน
ขั้นตอนที่ 4: สร้างแคมเปญโฆษณา
เมื่อบัญชีโฆษณาได้รับการอนุมัติจาก LINE แล้ว คุณสามารถเริ่มสร้างโฆษณาได้ทันที โดยเข้าไปที่เมนู “สร้างแคมเปญ” จากนั้นเลือกวัตถุประสงค์ของโฆษณาพร้อมกำหนดงบประมาณและระยะเวลาแคมเปญได้ตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 5: สร้าง “กลุ่มโฆษณา” หรือกลุ่มเป้าหมาย
ให้คุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ตามเพศ อายุ ที่อยู่ ความสนใจ หรือเลือกปรับแต่งกลุ่มเป้าหมายเองจากข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ เช่น ข้อมูลจาก LINE OA หลังจากนั้น ระบุราคาประมูลสำหรับโฆษณา เพื่อให้โฆษณาปรากฏในตำแหน่งต่างๆ บนแอปพลิเคชัน LINE หรือบน LINE TV ได้ตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 6: ใส่ข้อความและรูปภาพโฆษณา
ร้านค้าสามารถสร้างสรรค์ข้อความและเลือกรูปภาพที่น่าสนใจ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นโฆษณาจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดย LINE ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 วันหรือ 48 ชั่วโมง
_____________________________________________________________________________________________
การคิดค่าโฆษณาของ LINE Ads Platform
พ่อค้าแม่ค้าสามารถซื้อโฆษณาไลน์แอดได้ 2 วิธีด้วยกัน นั่นก็คือ ซื้อด้วยตัวเอง หรือซื้อผ่าน LINE Agency โดยมีรูปแบบการคิดค่าโฆษณาและการตั้งราคา LINE Ads ดังต่อไปนี้
6 รูปแบบการคิดค่าโฆษณา LINE LAP
ผู้ใช้งาน LINE Official Account ที่ซื้อโฆษณากับ LINE สามารถเลือกรูปแบบการคิดเงินโฆษณาที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของแบรนด์ได้ดังนี้
- Cost Per Impressions (CPM) : LINE LAP จะคิดค่าโฆษณาตามการแสดงผลทุก 1,000 ครั้ง โดยนับเฉพาะจำนวนครั้งที่กลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาโดยไม่สนใจว่ามีการคลิกหรือไม่ เหมาะสำหรับการเพิ่มการมองเห็นโฆษณาให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์มากขึ้น
- Cost Per Click (CPC) : เป็นรูปแบบโฆษณายอดนิยมเพราะ LAP จะคิดเงินจากจำนวนครั้งที่กลุ่มเป้าหมายคลิกโฆษณาเท่านั้น โดยแบรนด์สามารถตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายคลิกไปยังหน้าเว็บไซต์ ดูวิดีโอ หรือหน้าซื้อสินค้าได้ตามเป้าหมาย
- Cost Per Friend (CPF) : เป็นรูปแบบที่คิดค่าโฆษณาที่ทุกครั้งที่มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มเพื่อนเข้ามาในบัญชี LINE Official Account เหมาะสำหรับธุริกิจร้านค้าที่ต้องการเพิ่มฐานผู้ติดตาม เพื่อสร้างโอกาสปิดยอดขายได้มากขึ้น บอกเลยว่าการคิดค่าโฆษณาแบบ Cost Per Friend มีเฉพาะใน LINE LAP เท่านั้น
- Cost Per Video View (CPV) : จะคิดเงินตามจำนวนครั้งที่กลุ่มเป้าหมายรับชมวิดีโอ ซึ่งเหมาะสำหรับแคมเปญที่ต้องการเน้นการสื่อสารสินค้าหรือบริการผ่านวิดีโอโดยเฉพาะ
- Cost Per Action (CPA) : จะคิดเงินค่าโฆษณาในไลน์ตาม Action บนเว็บไซต์ การคิดโฆษณาแบบ CPA จึงเหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการโฆษณาเพื่อปิดยอดขาย (Conversion) หลังจากที่มีแอ๊กชันบางอย่างบนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้า ลงทะเบียน ดาวน์โหลดไฟล์ สมัครสมาชิก ฯลฯ
- Cost Per Install (CPI) : ใครที่ต้องการโปรโมทแอปพลิเคชันสามารถใช้ LINE Ads คิดค่าโฆษณาจากจำนวนครั้งที่มีกลุ่มเป้าหมายดาวน์โหลดหรือติดตั้งแอปพลิเคชันได้เลย
การตั้งราคาเสนอด้วยตนเอง (Manual Bidding)
Manual Bidding ใน LINE LAP คือ การที่ธุรกิจสามารถกำหนดราคาโฆษณาได้อย่างอิสระ ซึ่งมีข้อดีที่ทำให้แบรนด์สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละแคมเปญโฆษณาที่ลงทุนไป ทั้งนี้ระบบ LINE LAP จะมีราคาแนะนำ ซึ่งช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาของแบรนด์คุณมากขึ้น หรือมีอีกวิธีก็คือ ให้คุณตั้งงบโฆษณาจากข้อมูลเดิมที่เห็นผล ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ลงโฆษณาอยู่แล้ว
ตั้งราคาแบบอัตโนมัติ (Automatic Bidding)
Automatic Bidding คือการให้ระบบ LINE Ads Platform ประมูลราคาโฆษณาอัตโนมัติ โดยให้ร้านค้าที่ซื้อโฆษณาตั้งงบไว้ จากนั้นระบบจะทำงานแทนโดยการปรับราคาเสนอให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการ เช่น การเพิ่มจำนวนคลิก การเพิ่มการแสดงผล หรือการสร้าง Conversion การตั้งค่าหลัก ๆ ได้แก่
- กำหนดลิมิตราคาเสนอ (Bid Amount Cap) : กำหนดราคาสูงสุดต่อการแสดงผล โดยเริ่มประมูลจากราคาต่ำ และเพิ่มขึ้นสูงในราคาที่แบรนด์จ่ายไหว
- กำหนดลิมิตราคาต่อคอนเวอร์ชัน (Event Cost Cap) : คือ การให้ระบบ LINE LAP เพิ่มราคามากกว่าที่เสนอไว้เล็กน้อย เพื่อให้โฆษณาชนะการประมูลและแสดงแอดนั้น ๆ ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้าง Conversion นั่นเอง
- กำหนดเป้าหมายราคาต่อคอนเวอร์ชัน (Target Event Cost) : เป็นการตั้งราคาที่คุณรับได้ต่อ Action ที่เกิดจากโฆษณา เช่น การซื้อสินค้า หรือสมัครสมาชิก ระบบจะเสนอราคาประมูลให้ใกล้เคียงกับราคาที่ตั้งไว้ แม้จะสูงหรือต่ำกว่าก็ตาม ขึ้นอยู่กับการแข่งขันและพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายในตอนนั้น
- งบประมาณสูงสุดต่อวัน (No limit) : ไม่กำหนดราคา CPA แต่ตั้งงบประมาณรายวัน ระบบจะประมูลจากราคาต่ำไปสูงสุด เพื่อให้มีโอกาสประมูลชนะมากที่สุด เหมาะสำหรับแคมเปญที่ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน
หากคุณยังเป็นมือใหม่หัดยิงไลน์แอดที่มีงบจำกัด เราแนะนำให้เริ่มจาก Bid Amount Cap หรือ Event Cost Cap เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าในช่วงแรก
_____________________________________________________________________________________________
5 สุดยอดเคล็ดลับต่อยอดการโฆษณาบน LINE LAP
แม้ว่าการทุ่มเงินซื้อโฆษณา LINE Ads อาจสร้างผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ แต่อย่าลืมนึกถึงการเติบโตของธุรกิจของคุณในระยะยาว เราจึงแนะนำให้คุณมองหาเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติเพื่อต่อยอด LINE Ads ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น แพลตฟอร์ม MAAC ระบบ LINE CRM ที่มีหลายฟีเจอร์ที่จะช่วยคุณพิชิตเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างครบวงจร
1. เจาะกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำที่สุดบน LINE Ads
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ คือหัวใจสำคัญของการโฆษณาเชิงรุกอย่าง LINE Ads เราจึงแนะนำให้คุณใช้ฟังก์ชันแบ่งกลุ่มเป้าหมาย (Segmentation) ของ MAAC เพื่อช่วยเก็บข้อมูลผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น tag หรือระดับการส่วนร่วมของสมาชิกบน LINE OA ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยคุณกรองกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ เพื่อส่งข้อมูลกลับไปยังระบบหลังบ้าน LINE โดยใช้ UID
First-party data ที่ถูกเก็บในระบบ MAAC นั้น จึงเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณโฟกัสเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ปรับโฆษณาไปตามโปรไฟล์ผู้ใช้ และดึงดูดลูกค้าคุณภาพที่มีโอกาสซื้อสูงเข้ามาอย่างแม่นยำ
2. Lookalike Audience ค้นหาลูกค้าที่มีความสนใจคล้ายกันบน LINE Ads
เมื่อคุณเจอกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำผ่านระบบ MAAC แล้ว เราแนะนำให้ต่อยอดด้วยการสร้าง “Lookalike Audience” ใน LINE LAP เพื่อหาผู้ใช้ที่มีความสนใจคล้ายกับกลุ่มเป้าหมายก่อนหน้านี้ เพราะมันคือทางลัดที่เพิ่มโอกาสให้กลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจคล้ายกันเห็นโฆษณาของแบรนด์
แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น คุณยังสามารถใช้ระบบ AI ผ่าน MAAC ช่วยวิเคราะห์ผู้ใช้ที่มีศักยภาพซื้อสูง (Potential Buyer) เพื่อช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมอันซับซ้อนของลูกค้าแต่ละราย เพราะระบบจะช่วยคัดกรองสมาชิกที่มีแนวโน้มซื้อสูงมากที่สุดได้ล่วงหน้าสองสัปดาห์ได้เลยทีเดียว
3. ยิง LINE Ads ให้เปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นขาประจำด้วย Deeplink
MAAC มีฟีเจอร์ Deeplink ให้คุณสามารถสร้างข้อความต้อนรับที่ไม่ซ้ำกันสำหรับผู้ใช้แต่ละราย เราลองมาดูตัวอย่างจากแบรนด์ขายเสื้อผ้าผู้หญิงกันดีกว่า หลังจากที่มีผู้ใช้เพศหญิงรายหนึ่งกดเพิ่มเพื่อนเข้ามาหลังจากที่ได้เห็นโฆษณารองเท้าจาก LINE Ads จากนั้นเธอก็ได้ข้อความต้อนรับเกี่ยวกับรองเท้าคู่นั้น ทำให้เธอคลิกที่หน้าเว็บไซต์เพื่อซื้อสินค้าและชำระเงินสำเร็จ
นี่คือการสร้าง Customer Journey ที่แบรนด์สามารถกำหนดได้ง่าย ๆ ผ่านแพลตฟอร์ม MAAC ว่าจะให้ผู้ใช้ผ่านจุดสัมผัส (touch point) ใดบ้างจนกระทั่งการปิดยอดขาย ความพิเศษคือคุณสามารถออกแบบ journey ของลูกค้าตามพฤติกรรมและความสนใจที่แตกต่างกัน พร้อมกับส่งข้อความทางการตลาดแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนการจ้างแอดมิน ที่มีน่าสนใจอีกย่างก็คือ แบรนด์คุณสามารถติดตามพฤติกรรมการคลิก หรือ interaction ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบน LINE OA ด้วยการติด auto-tag
4. ใช้ LINE CRM เพิ่มจำนวนเพื่อนอย่างมีคุณภาพ
ในช่วงแรกของการเริ่มขายของออนไลน์ แบรนด์ส่วนใหญ่ต้องการสร้างฐานลูกค้าด้วยการเพิ่มจำนวนเพื่อนบน LINE OA เพื่อสร้างฐานผู้ติดตามสำหรับการโปรโมทแคมเปญการตลาด ถ้ามองเผิน ๆ การทุ่มงบโฆษณาไปกับ Cost Per Friend อาจเห็นผลไว แต่อาจจะไม่ใช่วิธีคืนทุนที่เร็วที่สุด
แม้ว่าการทุ่มเงินซื้อโฆษณาอาจสร้างผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ แต่อย่าลืมไปว่ายังมีวิธีอื่นที่จะช่วยให้แบรนด์คุณเป็นที่รู้จัก เช่น การลงทุนกับระบบ LINE CRM ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ดึงดูดให้ลูกค้าใหม่เพิ่มเพื่อนบน LINE และยังติดตามได้ว่าเพิ่มเพื่อนเข้ามาจากช่องทางไหน ซึ่งช่วยให้แบรนด์ขยายฐานลูกค้าให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
5. ใช้เกมสร้างไลน์แอดดึงดูดลูกค้าใหม่
การใช้เกมเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจที่ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เพิ่มเพื่อนในบัญชีทางการไลน์ (LINE OA) ของคุณ โดยแบรนด์สามารถสร้างเกมผ่านระบบ MAAC ซึ่งมีเกมให้เลือกถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ กาชาปอง รูเล็ต เซียมซี และเกมเศรษฐี
หลังจากสร้างเกมและกำหนดรางวัลพิเศษเรียบร้อยแล้ว แบรนด์สามารถโปรโมตเกมที่เลือกไว้ผ่าน LINE Ads เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้งานเข้ามาเล่นเกม วิธีนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตาม LINE OA แล้วยังสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า (Engagement) ได้ในเวลาเดียวกัน ถือเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลลัพธ์ถึงสองต่อเลยทีเดียว
_____________________________________________________________________________________________
ตาคุณสร้างโฆษณาด้วย LINE Ads แล้ว!
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เราหวังว่าคุณน่าจะพอเข้าใจการลงโฆษณาผ่าน LINE Ads Platform มากขึ้น เราได้ปูพื้นฐานตั้งแต่ LINE Ads คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจ รวมไปถึงขั้นตอนการเริ่มยิงไลน์แอด และวิธีคิดค่าโฆษณา คุณน่าจะสัมผัสได้ว่า LINE Ads เป็นเครื่องมือทรงพลังที่พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอให้เจาะกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามอย่าลืมแบ่งงบการตลาดบางส่วนมาลงทุนกับระบบ LINE CRM อย่าง MAAC จาก Crescendo lab เพื่อยกระดับให้ประสิทธิภาพของแคมเปญและสร้างการเติบโตของธุรกิจให้ยั่งยืนเหนือคู่แข่งในตลาด
สนใจเพิ่มยอดขายระยะยาวผ่าน LINE ด้วยแพลตฟอร์ม MAAC ปรึกษาฟรี!