Marketing Automation คืออะไร? ทำไมธุรกิจต้องทำการตลาดอัตโนมัติ
MarTech Trends • 26 พ.ค. 2023, 3:39:04 • Written by: CherryNapat
ติดตาม Crescendo Lab สำหรับสาระน่ารู้ในแวดวง MarTech คลิกเลย!
การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) คือ หนึ่งเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ เพราะสามารถใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนทางการตลาด และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจได้อย่างวัดผลได้จริง
Crescendo Lab จะพาคุณไปรู้จัก Marketing Automation ให้เข้าใจในบล็อกนี้!
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ 🔎 |
Marketing Automation คืออะไร?
การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) คือ การใช้เครื่องมือจัดการการตลาดหลายช่องทางโดยอัตโนมัติ ช่วยทุ่นแรงในงานที่ต้องทำซ้ำๆ ทำให้นักการตลาดสามารถใช้เวลาในการพัฒนากลยุทธ์ หรืองานสร้างสรรค์อื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างงานที่การนำการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) เข้ามาช่วยทุ่นแรงนักการตลาดได้ คือ:
- การส่ง e-mail อัตโนมัติ
- โพสต์เนื้อหาบน Social media ต่าง ๆ
- สนทนาอัตโนมัติกับ Chatbot
- รวบรวมและนำเสนอรายงานข้อมูลอัตโนมัติ
- ติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคอัตโนมัติเพื่อส่งข้อความทางการตลาด
- ส่งโฆษณาถึงกลุ่มเป้าหมายและปรับแคมเปญโดยอัตโนมัติตามผลลัพธ์แบบเรียลไทม์
เครื่องมือ Marketing Automation ที่พบเห็นได้บ่อย และเป็นที่นิยมในการใช้งานของธุรกิจในยุคปัจจุบัน ได้แก่
- CRM (แพลตฟอร์มการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า)
- CDP (แพลตฟอร์มเก็บรวมข้อมูลลูกค้า)
- ตัวจัดการโฆษณาทาง Social media
- เครื่องมือทำการตลาดอัตโนมัติด้วย e-mail
- เครื่องมือการขาย
- เครื่องมือช่วยทำการตลาดอัตโนมัติแบบ Omnichannel
- ฯลฯ
เครื่องมือการตลาด “MAAC” ตัวอย่างเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติสำหรับ LINE official account ของ Crescendo Lab
ข้อดีของการตลาดอัตโนมัติ Marketing Automation
แน่นอนว่าการปรับกลยุทธ์การตลาดอัตโนมัติจะช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดด มาดูกันดีกว่าว่า Marketing Automation มีประโยชน์ต่อแบรนด์คุณอย่างไรบ้าง
1. Marketing Automation ช่วยคุณประหยัดเวลามากขึ้น
เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติสามารถช่วยจัดการงานที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น การสื่อสารกับลูกค้าด้วยคำถามเดิมๆ การออกแบบคอนเทนต์ประจำทุกเดือน การทำวิจัยทางการตลาด หรือการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการทำงานโดยอัตโนมัติจะช่วยให้บริษัทประหยัดเวลา ลดต้นทุนการดำเนินการ และเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดได้
2. Marketing Automation สร้างผลตอบแทน (ROI) สูงขึ้น
เมื่อนักการตลาดไม่ต้องจัดการกับงานที่ซ้ำซ้อน ก็สามารถนำเวลาที่มีไปทำงานที่ต้องใช้ทักษะสูง เช่น การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด หรือการใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนในการจ้างการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆลง
นอกจากเรื่องการจ้างงงานแล้ว ทีมการตลาดยังใช้ข้อมูลลูกค้าที่ได้รับและเก็บรวมอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงแต่ละแคมเปญการตลาด และบริหารงบประมาณเพื่อให้ได้รับผลตอบแทน Return on Investment หรือ ROI ที่สูงที่สุดได้อีกด้วย
3. Marketing Automation เพิ่มความแม่นยำทางการตลาดมากขึ้น
การตลาดแบบอัตโนมัติไม่เพียงแค่ลดความผิดพลาดจากมนุษย์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักการตลาด
- ส่งแคมเปญโปรโมชันต่างๆที่ตรงใจ (Right message)
- ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง (Right Target)
- ในเวลาที่เหมาะสมอย่างแม่นยำ (Right Time)
ผ่านการจับข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้า นักการตลาดจะสามารถแยกและจัดหมวดหมู่กลุ่มเป้าหมาย (Target segmentation) เพื่อส่งเนื้อหาและบริการที่เฉพาะเจาะจงให้กับพวกเขา (Personalized marketing) ทำให้เกิดการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาการโต้ตอบกับลูกค้าในทุกๆ จุดสัมผัส (Touch Point) ได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าทั้งยอด Lead, MQL และ SQL, เพิ่มยอดขาย (Conversion) และยังทำงานร่วมกับทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามรายงานล่าสุดของ Salesforce ปี 2023 นักการตลาดมากถึง 80% รายงานว่าการตลาดโดยอัตโนมัติช่วยเพิ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ หรือยอด Qualified Lead ได้สูงถึง 451%
Salesforce ระบุว่าการตลาดโดยอัตโนมัติสามารถเพิ่มโอกาสขายได้ถึง 20% และธุรกิจส่วนใหญ่เพิ่มลูกค้าที่มีคุณภาพได้ถึง 451% (รูปภาพ/Salesforce)
5 เทรนด์ Marketing Automation ที่ต้องจับตามอง
ในปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากกว่า 350,000 บริษัททั่วโลกที่ให้บริการเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติ สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของเทคโนโลยีการตลาดที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมี 5 เทรนด์หลักๆ ที่ถูกจับตาในแวดวงการใช้เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation Tools) ดังนี้
1. การใช้ Generative AI
การใช้ AI เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีพื้นฐานหลักที่ช่วยจัดกลุ่มเป้าหมายและสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (hyper-personalized experiece) โดยอัตโนมัติ แต่ในยุคปัจจุบันที่ AI มีความซับซ้อนและแม่นยำมากขึ้น เทรนด์การเพิ่มขึ้นของ Generative AI หรือ AI ที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการ “สร้างสิ่งใหม่” จากชุดข้อมูลเดิมที่มีอยู่ ได้กลายเป็นเทรนด์ที่กำลังถูกจับตาว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในการทำตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตัวอย่างการใช้ Generative AI
Crescendo Lab ได้เชื่อมต่อ API ของ ChatGPT หนึ่งใน Generative AI ไว้กับแพลตฟอร์มการสื่อสารผ่านเครื่องมือ “CAAC AI” เพื่อสร้างข้อความตอบกลับลูกค้าผ่านทาง LINE OA อย่างชาญฉลาดและอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพในการสนทนากับลูกค้า
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CAAC AI
2. Chatbot ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
ข้อความทักทายในหน้าต่างแชทที่เด้งขึ้นบนเว็บไซต์มา หรือ Chatbot ที่ตอบคำถามต่างๆ โดยอัตโนมัติใน LINE หรือ Messenger คือตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยี Chatbot ในปัจจุบัน โดยเทรนด์ของ Chatbot ที่ผ่านการพัฒนาและเริ่มที่จะถูกนำเข้ามาใช้งาน คือโปรแกรม Chatbot ที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ช่วยให้การโต้ตอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของลูกค้าที่แตกต่างกันในปัจจุบัน
3. การใช้การตลาดอัตโนมัติสร้าง Customer Journey ที่ดีให้ลูกค้า
การทำให้ลูกค้าทั่วไป กลายมาเป็นลูกค้าสมาชิกที่มียอดซื้อสูง อาจต้องใช้เวลาและการทำการตลาดด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง วิธีการใช้การตลาดอัตโนมัติเพื่อ Customer Journey ที่เหมาะสม ราบรื่นและปิดยอดขายสำเร็จเป็นแทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจไม่แพ้กันในแวดวง Marketing Automation
4. การตลาดแบบทุกช่องทาง Omnichannel
ในปัจจุบันลูกค้าเข้าหาแบรนด์ได้จากหลากหลายช่องทาง ซึ่งและแบรนด์จำเป็นต้องบริหารทำการตลาดทุกช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงและสื่อสารกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด การรวมลูกค้าเข้ามาจากหลากหลายช่องทางให้สื่อสารได้อย่างไร้รอยต่อในฐานะแบรนด์ช่องทางเดียว (Omnichannel) จะต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวและการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีการตลาดอัตโนมัติเข้ามาช่วยในส่วนนี้ และเป็นอีกเทรนด์ที่นักการตลาดจับตามอง
ความแตกต่างระหว่างการตลาดแบบหลายช่องทาง (Multichannel) และการตลาดแบบทุกช่องทาง (Omnichannel) (รูปภาพ: MarketSplash)
5. การปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสำหรับดูในมือถือ
กลุ่มเป้าหมายจำนวนไม่น้อยใช้งานเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียบนมือถือเป็นหลัก นักการตลาดจึงต้องปรับการส่งสารทางการตลาดต่างๆ ให้เข้ากับกลุ่มผู้ใช้งานบนมือถือผ่านฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนแอปพลิเคชัน, การส่งข้อความ SMS, การชำระเงินผ่านมือถือ หรือรหัส QR, การติดตามตำแหน่ง, LINE Beacon, LINE interactive games ฯลฯ ซึ่งการตั้งค่าให้ฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานโดยอัตโนมัติ เป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมในหมู่นักการตลาดเพราะจะทำให้สามารถดำเนินการและติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนะนำ 5 สุดยอดเครื่องมือ Marketing Automation
Crescendo Lab ได้คัดสรรเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติที่น่าจะตอบโจทย์แบรนด์ต่าง ๆ จากทุกอุตสาหกรรม ไปดูกันดีกว่าว่ามีเจ้าไหนบ้าง และแต่ละเจ้ามีจุดเด่นอย่างไร
1. Insider
Insider บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์ม CDP, Customer Engagement Platform และ Marketing Automation ช่วยเชื่อมโยงข้อมูลลูกค้าข้ามแพลตฟอร์ม ทำนายพฤติกรรมด้วย AI และสร้าง Cross-Channel Journey แบบ Personalized โดยอัตโนมัติ
ดูข้อมูล Insider เพิ่มเติม : https://useinsider.com/
2. Emarsys
Emarsys คือผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม CDP และ Customer Engagement Platform ที่ช่วยให้ธุรกิจสื่อสารกับลูกค้าแบบ Personalised ได้ทุกช่องทาง ด้วย Marketing Automation, การวิเคราะห์ข้อมูล และ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็ว
ดูข้อมูล Emarsys เพิ่มเติม : https://emarsys.com/
3. iKalaCDP
iKala CDP คือ แพลตฟอร์มบริหารข้อมูลลูกค้า ช่วยรวบรวม วิเคราะห์ และจัดการข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อสร้างมุมมองลูกค้าที่ครอบคลุม พร้อมฟีเจอร์เด่น เช่น การแบ่งกลุ่มลูกค้า (Segmentation), การวิเคราะห์ด้วย AI, และการสร้างประสบการณ์แบบ Personalization ช่วยองค์กรทำ Data-driven Marketing และปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูข้อมูล iKala CDP เพิ่มเติม : https://ikala.cloud/en/customer-data-platform
4. Treasure Data
Treasure Data คือ Customer Data Platform (CDP) ที่ช่วยธุรกิจรวบรวมและจัดการข้อมูลลูกค้าจากหลายแหล่ง เพื่อสร้างมุมมอง 360 องศา รองรับธุรกิจทุกขนาด ช่วยทีมการตลาดและการขายตัดสินใจแม่นยำขึ้นด้วยข้อมูลรวมศูนย์ พร้อมฟีเจอร์ Machine Learning, การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) และการปฏิบัติตามกฎหมายความเป็นส่วนตัว เช่น GDPR
ดูข้อมูล Treasure Data เพิ่มเติม : https://www.treasuredata.com/
5. Crescendo lab CDH
Crescendo lab CDH ย่อมาจาก Crescendo lab Customer Data Hub เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อข้อมูลโปรไฟล์ลูกค้าข้ามระบบระหว่าง MAAC, CAAC และระบบ third party อื่นๆได้อย่างอัตโนมัติ โดยไม่ต้องพึ่งพาการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันและสอดคล้องกันในทุกระบบ ทำให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมและความสนใจลูกค้ารายบุคคลได้ง่าย จนสามารถต่อยอดสู่การทำการตลาดอัตโนมัตินั่นเอง
อ่านบล็อกฉบับเต็มเกี่ยวกับเครื่องมือ Marketing Automation: คลิกเลย!
บทสรุป
การนำเอาการตลาดอัตโนมัติเข้ามาปรับใช้อาจสร้างความกังวลให้กับนักการตลาด แต่หากนักการตลาดเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมและใช้งานง่าย ก็สามารถมั่นใจได้ว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยทำให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทุ่นแรง ประหยัดเวลา และมีประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจของคุณ
FAQ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Marketing Automation
1. จะวัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์การตลาดอัตโนมัติ หรือ Marketing Automation อย่างไร?
การวัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์การตลาดอัตโนมัติสามารถทำได้โดยการติดตาม KPI ที่สำคัญ เช่น อัตราการเปิดอีเมล (Open Rate), อัตราการคลิก (CTR), และ Conversion Rate ผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ เช่น Google Analytics หรือ CRM Tools ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของความสำเร็จและสามารถปรับกลยุทธ์ได้ตามความต้องการของตลาด
2. ความท้าทายหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ Marketing Automation คืออะไร?
ความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ Marketing Automation รวมถึงความซับซ้อนในการตั้งค่าระบบ, การรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ, และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ธุรกิจอาจพบอุปสรรคในการทำความเข้าใจเครื่องมือและการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้เครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ
3. ธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัดสามารถใช้เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติได้อย่างไร?
ธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัดสามารถเริ่มใช้ Marketing Automation ได้โดยการเลือกใช้เครื่องมือที่ฟรี หรือมีหลายแพลนค่าใช้จ่ายให้เลือกตามการใช้งาน เช่น HubSpot, Mailchimp, หรือ MAAC เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติจาก Crescendo Lab ซึ่งมักจะมีฟังก์ชันพื้นฐานที่เพียงพอสำหรับการเริ่มต้น นอกจากนี้ การเริ่มต้นด้วยการอัตโนมัติในขั้นตอนที่ง่าย ๆ ก่อน เช่น การส่งอีเมลอัตโนมัติ หรือการจัดการฐานข้อมูลลูกค้า จะช่วยให้ธุรกิจเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมาก