แคมเปญคืออะไร? มาดูกลยุทธ์และตัวอย่างปั้นแคมเปญให้ได้ผลในปี 2025
MarTech Trends • 8 พ.ย. 2024, 14:27:28 • Written by: Crescendo Lab TH
อย่าลืมกดติดตาม Crescendo Lab สำหรับสาระน่ารู้ในสาย MarTech!
แคมเปญคืออะไร? หมายความว่าอะไร? การเข้าใจถึงแก่นแท้ของแคมเปญจะช่วยให้คุณสามารถออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะตรงใจกลุ่มลูกค้าได้ แต่ในปัจจุบันวิธีการทำการตลาดในแต่ละองค์กรมักจะมีรูปแบบที่เหมือนๆ กัน เนื่องจากทุกองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างทั่วถึงเหมือนๆ กัน
ด้วยเหตุนี้ การสร้างแคมเปญที่แตกต่างและน่าสนใจจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดความสนใจของลูกค้าในช่วงเวลานี้ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักแคมเปญให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งแนะนำเทคนิคการสร้างแคมเปญการตลาด และตัวอย่างกลยุทธ์ล่าสุดในการสร้างแคมเปญที่โดดเด่นเป็นไอเดียให้คุณได้ปรับใช้ในปี 2025!
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ 🔎 |
แคมเปญการตลาดคืออะไร? ความหมายของแคมเปญ
แคมเปญการตลาด คือ ชุดของกิจกรรมทางการตลาดที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อส่งเสริมสินค้า บริการ หรือแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แคมเปญการตลาดมักประกอบด้วยการใช้เครื่องมือสื่อสารหลากหลายรูปแบบ เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ การตลาดดิจิทัล เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นยอดขาย หรือสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์
การทำแคมเปญที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย และมีการวัดผลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ตั้งไว้
_____________________________________________________________________________________________
แคมเปญการตลาดสำคัญต่อธุรกิจอย่างไร
แคมเปญการตลาดส่งผลสำคัญต่อธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยผลทางตรงที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ การสร้างการรับรู้และความสนใจให้กับสินค้าหรือแบรนด์ของเรา เมื่อการรับรู้และความสนใจเพิ่มขึ้น ผลที่ตามมาคือลูกค้าจะเริ่มมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มโอกาสทางการขายสินค้าของเราได้ในที่สุด
กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นเป็นวัฏจักร 3 ขั้นตอนหลังจากที่เราสร้างแคมเปญการตลาด โดยผลทางอ้อมนั้นจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากผลทางตรงตามทฤษฎีการตลาด
1. สร้างการรับรู้และความสนใจ (Awareness)
แคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จ จะส่งผลต่อขั้นแรกของ Customer Journey ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ สินค้า หรือบริการให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ การสร้างการรับรู้นี้จะช่วยให้แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ติดตรึงอยู่ในใจผู้บริโภค เมื่อพวกเขาต้องการสินค้าหรือบริการในหมวดหมู่นั้นๆ ในอนาคต
2. สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า (Engagement)
แคมเปญการตลาดยังช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการกดไลค์ แชร์ หรือแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในระยะยาว
แคมเปญที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างโอกาสในการขายและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อผู้บริโภครู้จักและสนใจในแบรนด์มากขึ้น โอกาสที่พวกเขาจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
_____________________________________________________________________________________________
รูปแบบ และประเภทของแคมเปญการตลาด
รูปแบบและประเภทของแคมเปญการตลาดมีความหลากหลายและซับซ้อน สะท้อนถึงพลวัตของโลกธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีการแบ่งประเภทที่แตกต่างกันไปตามแต่ละสำนักหรือผู้เชี่ยวชาญ แต่โดยทั่วไปแล้วสามารถจำแนกได้ตามวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย ช่องทางการสื่อสาร และกลยุทธ์ที่ใช้ ยังมีการแบ่งตามรูปแบบสื่อที่ใช้ เช่น แคมเปญดิจิทัล แคมเปญออฟไลน์ หรือแคมเปญแบบผสมผสาน แต่ในบทความนี้เราจะขอแบ่งให้เข้าใจง่ายๆ เป็น 2 รูปแบบ 3 ประเภทแคมเปญหลัก
รูปแบบ 2 แบบ
- รูปแบบที่ 1 : แคมเปญสื่อแบบดั้งเดิม (Traditional Media Campaign)
แคมเปญสื่อแบบดั้งเดิม หรือ Traditional Media Campaign ยังคงมีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคบางกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังไม่ทั่วถึง หรือในกลุ่มผู้บริโภคที่ยังคุ้นเคยกับสื่อแบบดั้งเดิมมากกว่า การใช้สื่อเช่น โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือวารสารต่างๆ ยังคงมีประสิทธิภาพในการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง - รูปแบบที่ 2 : แคมเปญดิจิทัล (Digital Campaign)
ในขณะเดียวกัน แคมเปญดิจิทัล หรือ Digital Campaign ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดในยุคสมัยใหม่นี้ ด้วยความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและวัดผลได้ชัดเจน การใช้ช่องทางดิจิทัลเช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และอีเมล ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วตามการตอบสนองของตลาด
3 ประเภทนิยมหลัก
- ประเภทที่ 1 : แคมเปญสร้างการรับรู้ (Awareness Campaign)
แคมเปญประเภทนี้มุ่งเน้นการสร้างความคุ้นเคยและจดจำแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ในใจผู้บริโภค โดยอาศัยการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาทั้งแบบดั้งเดิมและดิจิทัล การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า หรือการใช้อินฟลูเอนเซอร์เพื่อขยายการรับรู้ในวงกว้าง แคมเปญประเภทนี้มักเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างฐานลูกค้าใหม่และกระตุ้นความสนใจในตลาด - ประเภทที่ 2 : แคมเปญการมีส่วนร่วม (Engagement Campaign)
แคมเปญการมีส่วนร่วม หรือ Engagement Campaign เป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับกลุ่มเป้าหมาย โดยมุ่งเน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดการแข่งขัน การทำแบบสำรวจ หรือการสร้างคอนเทนต์ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม แคมเปญประเภทนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า แต่ยังเป็นโอกาสในการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค - ประเภทที่ 3 : แคมเปญเปิดตัวผลิตภัณฑ์ (Product Launch Campaign)
สุดท้าย แคมเปญเปิดตัวผลิตภัณฑ์ หรือ Product Launch Campaign เป็นช่วงเวลาสำคัญในการนำเสนอนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด แคมเปญประเภทนี้มักจะรวมเอาองค์ประกอบของทั้งการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมเข้าไว้ด้วยกัน โดยมุ่งเน้นการสื่อสารข้อมูลสำคัญ คุณสมบัติเด่น และประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบอย่างชัดเจน การผสมผสานระหว่างการใช้สื่อแบบดั้งเดิมและดิจิทัลอย่างลงตัวมักเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของแคมเปญประเภทนี้ โดยช่วยสร้างกระแสและความตื่นเต้นรอคอยในวงกว้าง พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้และการซื้อในที่สุด
_____________________________________________________________________________________________
วิธีการวางแผนสร้างแคมเปญการตลาด
จริงๆ แล้วในปัจจุบัน มีแคมเปญการตลาดมากมายที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ได้ยึดติดกับวิธีการทางตำรา แต่เน้นแนวทางสร้างสรรค์และอิสระจากรูปแบบทางวิชาการ การวางแผนสร้างแคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จนั้นมีวิธีการที่หลากหลายและกว้างขวาง แต่หัวใจสำคัญคือการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและสร้างสรรค์ไอเดียที่โดนใจ โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบตายตัว
แต่ในหัวข้อนี้ เราจะอธิบายแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแคมเปญการตลาดแบบจริงจัง เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีทีมงานขนาดใหญ่และใช้ทรัพยากรเพื่อสร้างแคมเปญ หรือจะทุกคนสามารถใช้เป็น เข็มทิศแนวทางได้ โดยจะเป็น 9 ขั้นตอนตามรูปแบบทางตำราดังนี้
1. กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน
- ระบุเป้าหมายเฉพาะเจาะจง เช่น เพิ่มยอดขาย 20% ใน 3 เดือน
- ตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้และมีกำหนดเวลาชัดเจน
2. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
- ศึกษาพฤติกรรม ความต้องการ และลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย
- สร้าง Customer Persona เพื่อเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง
3. กำหนดกลยุทธ์และแนวคิดหลักของแคมเปญ
- คิดไอเดียและคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย
- สร้างแนวคิดหลัก (Key Message) ที่โดดเด่นและจดจำง่าย
- วางแผนการสื่อสารและข้อความหลักของแคมเปญ
4. เลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะสม
- พิจารณาช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด
- วางแผนการใช้สื่อแบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออฟไลน์
5. กำหนดงบประมาณและทรัพยากรที่ต้องใช้
- จัดสรรงบประมาณสำหรับแต่ละช่องทางและกิจกรรม
- วางแผนการใช้ทรัพยากรบุคคลและเวลา
6. สร้างแผนปฏิบัติการและกำหนดระยะเวลา
- ระบุขั้นตอนการดำเนินงานอย่างละเอียด
- กำหนด Timeline ที่ชัดเจนสำหรับแต่ละกิจกรรม
7. ดำเนินการตามแผน
- ผลิตเนื้อหาและสื่อต่างๆ ตามที่วางแผนไว้
- เริ่มดำเนินกิจกรรมการตลาดตาม Timeline
8. ติดตามและวัดผล
- กำหนด KPI และเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
- วิเคราะห์ผลลัพธ์เทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
9. ปรับปรุงและพัฒนา
- นำผลลัพธ์และข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาจุดที่ต้องปรับปรุง
- ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือแผนงานตามความเหมาะสม
_____________________________________________________________________________________________
แนะนำแนวทางการสร้างแคมเปญการตลาดให้สำเร็จ
ในปัจจุบันมีความท้าทายมากมาย ทั้งการแข่งขันที่เข้มข้นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การออกแบบแคมเปญที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับนักการตลาดทุกคน การสร้างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จไม่เพียงแต่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังต้องมีกลยุทธ์ที่รอบคอบ การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างลึกซึ้ง และความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เราจะแนะนำแนวทางที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างแคมเปญการตลาด (รับรองมีประโยชน์แน่นอน)
กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน
ระบุเป้าหมายที่วัดผลได้ เช่น การสร้างการรับรู้แบรนด์ เพิ่มยอดขาย หรือสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า กำหนดตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรม อาทิ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ ยอดขาย หรือจำนวนผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย
ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง
วิเคราะห์พฤติกรรม ความชอบ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทำเข้าใจความแตกต่างในแต่ละช่วงอายุ ช่วง Generation (สำคัญมากๆ!) ปัจจุบันเราสามารถใช้เครื่องมือช่วย เพื่อให้เข้าใจ Insight ลูกค้าอย่างแม่นยำ ขอยกตัวอย่างเช่น ใช้เครื่องมือเช่น CAAC จาก Crescendo Lab เพื่อรวบรวมข้อมูลการสนทนากับลูกค้าจากหลายช่องทาง สร้างโปรไฟล์ลูกค้าที่ครอบคลุมเพื่อค้นหา insight ที่นำไปพัฒนาแคมเปญได้ ทำให้สามารถเห็นภาพรวมของการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ทั้งข้อมูลการซื้อ ความสนใจ และพฤติกรรมการใช้งาน
คิดไอเดียสร้างสรรค์นอกกรอบ
ระดมความคิดอย่างอิสระ ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม มองหาวิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ผสมผสานเทคโนโลยีหรือเทรนด์ใหม่ๆ เข้ากับแคมเปญเพื่อสร้างความแตกต่าง
เลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม
พิจารณาช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด ผสมผสานหลายช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการสื่อสาร
สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค
ออกแบบแคมเปญให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม เช่น การแข่งขัน การโหวต การแสดงความคิดเห็น การแชร์ หรือการโพสต์รูปภาพ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์และความผูกพันกับแบรนด์
ทดสอบและปรับปรุง
ทดลองแคมเปญกับกลุ่มตัวอย่างก่อนเปิดตัวจริง เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผลเพื่อปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ให้แคมเปญมีประสิทธิภาพสูงสุด
สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ
มุ่งเน้นสร้างอารมณ์และความรู้สึกให้กับผู้บริโภค ออกแบบแคมเปญที่กระตุ้นให้เกิดการบอกต่อ สร้างความประทับใจที่ยาวนาน
ใช้ Storytelling ที่น่าสนใจ
เล่าเรื่องราวที่สร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภค นำเสนอคุณค่าของแบรนด์ผ่านเรื่องราวที่น่าประทับใจ เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์
Data-Driven Campaigns
นี้เป็นแนวทางที่สำคัญมากๆ ในปัจจุบัน การใช้ข้อมูลเชิงลึ ในการวางกลยุทธ์แคมเปญการตลาดจะมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ซึ่งหลายๆ องค์กรที่สามารถนำ Big Data มาวิเคราะห์และประยุกต์ใช้จะมีความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจอย่างมาก เพราะจากที่ได้อธิบายไปแล้ว มันเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีในการเพิ่มกำไร และลดต้นทุน ที่เหนือกว่าวิธีการในรูปแบบอดีต และในปัจจุบันก็มีเครื่องมือมากมาย มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้
_____________________________________________________________________________________________
10 Framework ตัวอย่างแคมเปญการตลาดเอาไว้ใช้ปี 2025
1. User-Generated Content (UGC) Campaign
เป็นกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการมีส่วนร่วมของลูกค้าในการสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับแบรนด์หรือสินค้า แคมเปญนี้สามารถดำเนินการได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การจัดประกวดภาพถ่ายหรือวิดีโอที่สร้างสรรค์โดยลูกค้า การรณรงค์ให้ลูกค้าแชร์รีวิวหรือประสบการณ์การใช้สินค้า และการนำ UGC มาโปรโมทบนช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์ วิธีนี้ไม่เพียงช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เนื่องจากผู้บริโภคมักเชื่อถือความคิดเห็นของผู้ใช้จริงมากกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิม
2. Influencer Micro-Marketing
แนวทางการตลาดที่มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับ micro-influencers ซึ่งมีผู้ติดตามไม่มากนัก แต่มีอิทธิพลสูงในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ กลยุทธ์นี้มีประสิทธิภาพเนื่องจาก micro-influencers มักมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดตาม ทำให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แบรนด์สามารถให้สินค้าตัวอย่างหรือส่วนลดแทนค่าตอบแทนเป็นเงิน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการตลาดได้ การเลือก micro-influencers ที่เหมาะสมและมีค่านิยมสอดคล้องกับแบรนด์เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของแคมเปญนี้
3. Community Building Campaign
กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาชุมชนออนไลน์สำหรับลูกค้าและแฟนแบรนด์ แคมเปญนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในชุมชนด้วยกันเอง กิจกรรมที่สามารถทำได้ เช่น การจัดพบปะสังสรรค์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การสร้างเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ และการจัดกิจกรรมพิเศษสำหรับสมาชิก การสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์และสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคงในระยะยาว
4. Gamification Campaign
แคมเปญ Gamification เป็นการนำเอาองค์ประกอบของเกมมาประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การตลาด เพื่อสร้างความสนุกสนานและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า วิธีนี้สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การสะสมแต้มเพื่อแลกรางวัล การแข่งขันออนไลน์ หรือการทำภารกิจเพื่อปลดล็อคสิทธิพิเศษต่างๆ โดยแบรนด์สามารถเลือกเกมในผู้ใช้งานเล่นผ่าน LINE ได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือการตลาด MAAC
Gamification ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์ สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ และกระตุ้นให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง (แบบกระซิบให้ว่าหลายๆ องค์กรใช้ แคมเปญ Gamification ในการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรม)
5. Referral Program
กลยุทธ์การตลาดที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของลูกค้าปัจจุบันเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยการให้รางวัลหรือส่วนลดแก่ลูกค้าที่แนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักให้มาใช้สินค้าหรือบริการ โปรแกรมนี้สามารถออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ เช่น การสร้างแคมเปญเพื่อนแนะนำเพื่อน บน LINE OA ด้วยฟีเจอร์ Member Get Member (MGM) บนเครื่องมือ MAAC จาก Crescendo Lab ด้วยการมอบรางวัลพิเศษกระตุ้นให้เพื่อนใน LINE ให้แนะนำผู้ใช้งานใหม่แอด LINE OA ของแบรน
แคมเปญ Referral Program จะสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกค้าปัจจุบันและความน่าสนใจของรางวัลที่นำเสนอ การทำให้กระบวนการแนะนำและรับรางวัลง่ายและสะดวกเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้แคมเปญประสบความสำเร็จ
6. Collaborative Marketing
วิธีนี้ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่และแบ่งปันทรัพยากรในการทำการตลาด กิจกรรมที่สามารถทำได้ เช่น การจัดโปรโมชั่นร่วมกัน การสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ร่วมกัน หรือการแลกเปลี่ยนการโปรโมทซึ่งกันและกันบนช่องทางโซเชียลมีเดีย ความสำเร็จของ Collaborative Marketing ขึ้นอยู่กับการเลือกพันธมิตรที่เหมาะสมและการวางแผนแคมเปญที่สร้างประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย รวมถึงการสื่อสารที่ชัดเจนกับกลุ่มเป้าหมาย
7. Campaign รักษ์โลก
เราสามารถนำเทรนด์รักษ์โลก แคมเปญที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยรณรงค์ให้ลูกค้านำบรรจุภัณฑ์หรือสินค้าเก่ามารีไซเคิลหรือดัดแปลงใหม่อย่างสร้างสรรค์ แคมเปญนี้สามารถจัดในรูปแบบการประกวดไอเดียการรียูสที่สร้างสรรค์ การจัดเวิร์คช็อปสอนการ Recycle ของเหลือใช้ หรือการแชร์ไอเดียและเทคนิคผ่านโซเชียลมีเดีย นอกจากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ในด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและกระตุ้นให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างคุ้มค่ามากขึ้น
8. แคมเปญการตลาดแบบ Zero Budget
การทำการตลาดที่เน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์และทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ใช้งบประมาณหรือใช้น้อยที่สุด กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพที่มีงบประมาณจำกัด วิธีการทำ Zero Budget Marketing รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียฟรีในการสร้างเนื้อหาและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อแลกเปลี่ยนการโปรโมท และการขอความร่วมมือจากพนักงานในการสร้างเนื้อหาและแชร์ข้อมูล นอกจากนี้ ยังสามารถจัดกิจกรรมออนไลน์ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น การไลฟ์สด Q&A ความท้าทายของแคมเปญนี้คือการใช้ความคิดสร้างสรรค์และเวลามากขึ้นเพื่อชดเชยงบประมาณที่จำกัด
9. แคมเปญ Word of Mouth ปั้นแคมเปญให้ไวรัล
กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างการพูดถึงแบรนด์หรือสินค้าในทางบวกและการบอกต่อระหว่างผู้บริโภค เพื่อให้แคมเปญเกิดการแพร่กระจายแบบไวรัล แบรนด์ต้องสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ใช้ Influencer Marketing เพื่อขยายการรับรู้ และสร้างเนื้อหาที่แปลกใหม่ น่าสนใจ และแชร์ง่าย นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้คนอยากมีส่วนร่วมและแชร์ต่อ รวมถึงการใช้แฮชแท็กที่จดจำง่ายและเกี่ยวข้องกับแคมเปญ ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ข้อดีของแคมเปญนี้คือสามารถสร้างการรับรู้ในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องระมัดระวังในการควบคุมทิศทางของการสื่อสารให้เป็นไปในทางที่ต้องการ
10. แคมเปญการตลาดแบบ Guerrilla
เป็นรูปแบบการตลาดที่ใช้วิธีการแปลกใหม่ สร้างสรรค์ และมักจะไม่คาดคิดมาก่อน เพื่อสร้างความประหลาดใจและดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค ตัวอย่างของ Guerrilla Marketing รวมถึง Street Art หรือการติดตั้งงานศิลปะในที่สาธารณะ Flash Mobs หรือการแสดงที่จัดขึ้นแบบฉับพลันในที่สาธารณะ Ambient Marketing หรือการใช้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นสื่อโฆษณา และ Experiential Marketing หรือการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค ข้อดีของแคมเปญนี้คือสามารถสร้างการจดจำได้ดีและมีโอกาสเกิดการบอกต่อสูง อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังเรื่องกฎหมายและการรบกวนสาธารณะ รวมถึงการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์
_____________________________________________________________________________________________
แถมก่อนจบบทความ! แนะนำการสร้างแคมเปญการตลาดผ่าน LINE
ก่อนที่เราจะปิดท้ายบทความนี้ เรามีไอเดียแคมเปญมาฝาก นั่นคือการทำแคมเปญการตลาดผ่าน LINE ซึ่งถือเป็นช่องทางยอดนิยมสำหรับคนไทย เรารู้กันดีว่า LINE นั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยไปแล้ว ด้วยจำนวนผู้ใช้มหาศาล ซึ่งมีมากกว่า 56 ล้านผู้ใช้งานที่เปิดแอปทุกวัน ทำให้ LINE เป็นพื้นที่ทองคำสำหรับนักการตลาดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเราจะมาแนะนำวิธีสร้างแคมเปญบน LINE ที่เชื่อมโยงกับฟีเจอร์การตลาดอัตโนมัติของ MAAC จาก Crescendo Lab ผลิตภัณฑ์ของเรา มาดูกันว่าเราจะใช้ประโยชน์จาก MAAC ได้อย่างไร
แคมเปญ "ลุ้นรางวัลใหญ่กับเกมกาชาปองบนไลน์”
แคมเปญนี้ใช้ฟีเจอร์ Gamification ของ MAAC เพื่อสร้างความสนุกและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้าบน LINE Official Account (OA)
- สร้างเกมบน LINE OA โดยใช้ฟีเจอร์เกมของ MAAC เช่น เกมกาชาปอง หรือเกมวงล้อ เพื่อสร้าง Engagement และแจกรางวัลเป็นส่วนลดด้วยฟีเจอร์ Coupon ให้กับลูกค้าหลังร่วมเล่นเกม
- MAAC เพื่อส่งข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อลูกค้าใช้งานคูปองเรียบร้อยแล้ว หรือส่งข้อความแจ้งเตือนลูกค้าที่ยังไม่ได้ใช้คูปอง หรือเมื่อคูปองใกล้หมดอายุ
- ใช้ฟีเจอร์ AI Smart Sending ของ MAAC เพื่อส่งข้อความกระตุ้นการเล่นเกมในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละราย
แคมเปญ "แนะนำเพื่อน รับคูปองทันที"
แคมเปญนี้ใช้ฟีเจอร์ Member get Member ร่วมกับ LINE Coupon ของ MAAC เพื่อกระตุ้นการเพิ่มเพื่อนใหม่และยอดขาย โดยจูงใจให้กลุ่มลูกค้าปัจจุบันแนะนำเพื่อน และ สร้างคูปอง เป็นสิ่งตอบแทนให้แก่ลูกค้า ผู้แนะนำ
- สร้างคูปองด้วยฟีเจอร์ LINE Coupon ร่วมกับฟีเจอร์ Member get Member ของ MAAC โดยกำหนดให้ทั้งผู้แนะนำและผู้ถูกแนะนำได้รับคูปองส่วนลด 15% สำหรับการซื้อครั้งต่อไป
- ใช้ฟีเจอร์ Deeplink ของ MAAC เพื่อติดตามแหล่งที่มาของลูกค้าใหม่ ทำให้สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างแม่นยำ
- ตั้งค่า Automated Messaging ให้ส่งข้อความต้อนรับอัตโนมัติพร้อมคูปองส่วนลดให้กับเพื่อนใหม่ทันทีที่เพิ่มเพื่อน
- ใช้ฟีเจอร์ AI Smart Recommendation ของ MAAC เพื่อแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายบนหน้า LINE OA
- ใช้ฟีเจอร์ AI ของ MAAC เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้คูปองและปรับแต่งแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ท้ายบทความ
ก่อนไปในวันนี้เราจะมาเล่า Case Study แคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นคือกรณีศึกษาของ NISSAN ทำแคมเปญการตลาดผ่าน LINE ในปี 2022-2023 โดย NISSAN ใช้กลยุทธ์การจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างชาญฉลาดผ่านแพลตฟอร์ม LINE Official Account
โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Deeplink, แบบสอบถาม Surveycake และระบบตอบกลับอัตโนมัติ เพื่อเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ทั้งจากช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า จากนั้นจึงสร้างเนื้อหาที่ตรงใจ ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อในที่สุด
ยังใช้กลยุทธ์การสื่อสารแบบเฉพาะเจาะจงในการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ KICKS SUV ด้วยแคมเปญ 3 ระลอกที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ได้แก่
1) การสร้างการรับรู้ถึงรถรุ่นใหม่
2) ชักชวนให้ลูกค้ามาทดลองขับ
3) ส่งข้อเสนอพิเศษให้กับกลุ่มที่มีความสนใจสูง
ผลลัพธ์คือ NISSAN สามารถเพิ่มจำนวนผู้ติดตามบน LINE OA ได้กว่า 10,500 คน มีผู้กรอกแบบสอบถามสำหรับทดลองขับกว่า 5,000 คน และที่สำคัญคืออัตราการเปิดอ่านข้อความสูงถึง 40% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป
นับเป็นตัวอย่างของการปั้นแคมเปญการตลาดที่ได้ผลจริงของ Nissan ที่เราเล่าให้ฟังเพื่อให้แบรนด์ของท่านมีไอเดียสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้! หวังว่าบทความวันนี้ของเราจะมีประโยชน์ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้าทุกคน!