ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับแวดวงการตลาดในทุกอุตสาหกรรม แน่นอนว่าความสามารถในการแข่งขันทางด้านการตลาดเพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการต่างพึ่งพาเทคโนโลยีทางการตลาด (Martech) ต่างๆ มาใช้เพื่อเป็นต่อเหนือคู่แข่งทางธุรกิจ
การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) เป็นหนึ่งเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ เพราะสามารถใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนทางการตลาด และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจได้อย่างวัดผลได้จริง การตลาดอัตโนมัติจึงกลายเป็นเทรนด์หลักในยุคการตลาดดิจิทัลและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) คือการใช้เครื่องมือจัดการการตลาดหลายช่องทางโดยอัตโนมัติ ช่วยทุ่นแรงในงานที่ต้องทำซ้ำๆ ทำให้นักการตลาดสามารถใช้เวลาในการพัฒนากลยุทธ์ หรืองานสร้างสรรค์อื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างงานที่การตลาดอัตโนมัติเข้ามาช่วยทุ่นแรงนักการตลาดได้ คือ:
เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติที่พบเห็นได้บ่อย และเป็นที่นิยมในการใช้งานของธุรกิจในยุคปัจจุบัน ได้แก่
เครื่องมือการตลาด “MAAC” ตัวอย่างเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติสำหรับ LINE official account ของ Crescendo Lab
เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติสามารถช่วยจัดการงานที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น การสื่อสารกับลูกค้าด้วยคำถามเดิมๆ การออกแบบคอนเทนต์ประจำทุกเดือน การทำวิจัยทางการตลาด หรือการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการทำงานโดยอัตโนมัติจะช่วยให้บริษัทประหยัดเวลา ลดต้นทุนการดำเนินการ และเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดได้
เมื่อนักการตลาดไม่ต้องจัดการกับงานที่ซ้ำซ้อน ก็สามารถนำเวลาที่มีไปทำงานที่ต้องใช้ทักษะสูง เช่นการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด หรือการใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนในการจ้างการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆลง
นอกจากเรื่องการจ้างงงานแล้ว ทีมการตลาดยังใช้ข้อมูลลูกค้าที่ได้รับและเก็บรวมอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงแต่ละแคมเปญการตลาด และบริหารงบประมาณเพื่อให้ได้รับผลตอบแทน Return on Investment หรือ ROI ที่สูงที่สุดได้อีกด้วย
การตลาดแบบอัตโนมัติไม่เพียงแค่ลดความผิดพลาดจากมนุษย์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักการตลาด
ผ่านการจับข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้า นักการตลาดจะสามารถแยกและจัดหมวดหมู่กลุ่มเป้าหมาย (Target segmentation) เพื่อส่งเนื้อหาและบริการที่เฉพาะเจาะจงให้กับพวกเขา (Personalized marketing) ทำให้เกิดการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาการโต้ตอบกับลูกค้าในทุกๆ Touch Point ได้อย่างไร้รอยต่อช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าทั้งยอด Lead, MQL และ SQL, เพิ่มยอดขาย (Conversion) และยังทำงานร่วมกับทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามรายงานล่าสุดของ Salesforce ปี 2023 นักการตลาดมากถึง 80% รายงานว่าการตลาดโดยอัตโนมัติช่วยเพิ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ หรือยอด Qualified Lead ได้สูงถึง 451%
Salesforce ระบุว่าการตลาดโดยอัตโนมัติสามารถเพิ่มโอกาสขายได้ถึง 20% และธุรกิจส่วนใหญ่เพิ่มลูกค้าที่มีคุณภาพได้ถึง 451% (รูปภาพ/Salesforce)
ในปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากกว่า 350,000 บริษัททั่วโลกที่ให้บริการเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติ สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของเทคโนโลยีการตลาดที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมี 5 เทรนด์หลักๆ ที่ถูกจับตาในแวดวงการใช้เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติดังนี้
การใช้ AI เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีพื้นฐานหลักที่ช่วยจัดกลุ่มเป้าหมายและสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (hyper-personalized experiece) โดยอัตโนมัติ แต่ในยุคปัจจุบันที่ AI มีความซับซ้อนและแม่นยำมากขึ้น เทรนด์การเพิ่มขึ้นของ Generative AI หรือ AI ที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการ “สร้างสิ่งใหม่” จากชุดข้อมูลเดิมที่มีอยู่ ได้กลายเป็นเทรนด์ที่กำลังถูกจับตาว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในการทำตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตัวอย่างการใช้ Generative AI
Crescendo Lab ได้เชื่อมต่อ API ของ ChatGPT หนึ่งใน Generative AI ไว้กับแพลตฟอร์มการสื่อสารผ่านเครื่องมือ “CAAC AI” เพื่อสร้างข้อความตอบกลับลูกค้าผ่านทาง LINE OA อย่างชาญฉลาดและอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพในการสนทนากับลูกค้า
ข้อความทักทายในหน้าต่างแชทที่เด้งขึ้นบนเว็บไซต์มา หรือ Chatbot ที่ตอบคำถามต่างๆ โดยอัตโนมัติใน LINE หรือ Messenger คือตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยี Chatbot ในปัจจุบัน โดยเทรนด์ของ Chatbot ที่ผ่านการพัฒนาและเริ่มที่จะถูกนำเข้ามาใช้งาน คือโปรแกรม Chatbot ที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ช่วยให้การโต้ตอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของลูกค้าที่แตกต่างกันในปัจจุบัน
การทำให้ลูกค้าทั่วไป กลายมาเป็นลูกค้าสมาชิกที่มียอดสูง อาจต้องใช้เวลาและการทำการตลาดด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง วิธีการใช้การตลาดอัตโนมัติเพื่อ Customer Journey ที่เหมาะสม ราบรื่นและปิดยอดขายสำเร็จเป็นแทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจไม่แพ้กันในแวดวงการตลาดอัตโนมัติ
ในปัจจุบันลูกค้าเข้าหาแบรนด์ได้จากหลายหลายช่องทาง ซึ่งและแบรนด์จำเป็นต้องบริหารทำการตลาดทุกช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงและสื่อสารกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด การรวมลูกค้าเข้ามาจากหลากหลายช่องทางให้สื่อสารได้อย่างไร้รอยต่อในฐานะแบรนด์ช่องทางเดียว (Omnichannel) จะต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวและการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีการตลาดอัตโนมัติเข้ามาช่วยในส่วนนี้ และเป็นอีกเทรนด์ที่นักการตลาดจับตามอง
ความแตกต่างระหว่างการตลาดแบบหลายช่องทาง (Multichannel) และการตลาดแบบทุกช่องทาง (Omnichannel) (รูปภาพ: MarketSplash)
กลุ่มเป้าหมายจำนวนไม่น้อยใช้งานเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียบนมือถือเป็นหลัก นักการตลาดจึงต้องปรับการส่งสารทางการตลาดต่างๆ ให้เข้ากับกลุ่มผู้ใช้งานบนมือถือผ่านฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนแอปพลิเคชัน, การส่งข้อความ SMS, การชำระเงินผ่านมือถือ หรือรหัส QR, การติดตามตำแหน่ง, LINE Beacon, LINE interactive games ฯลฯ ซึ่งการตั้งค่าให้ฟีเจอร์เหล่านี้ทำงานโดยอัตโนมัติ เป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมในหมู่นักการตลาดเพราะจะทำให้สามารถดำเนินการและติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การนำเอาการตลาดอัตโนมัติเข้ามาปรับใช้อาจสร้างความกังวลให้กับนักการตลาด แต่หากนักการตลาดเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมและใช้งานง่าย ก็สามารถมั่นใจได้ว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยทำให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทุ่นแรง ประหยัดเวลา และมีประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจของคุณสนใจการใช้เครื่องการตลาดอัตโนมัติบน LINE OA คลิกเลย